3 บทเรียนของ BMW จากการแข่งขัน The Mexico City E-Prix

เริ่มทยอยเปิดสนามแข่งกันไปแล้วกับสังเวียนมอเตอร์สปอร์ต 2019 ที่หลายทีมก็เริ่มลงไปลองลงแข่งเพื่อทำการเทสรถค่ายของตัวเองกันมาบ้างแล้ว รวมถึง  BMW I Andretti Motosport ที่ได้ลงแข่งขันในฤดูกาลแรกของ ABB FIA Formular E Championship ซึ่งทางวิศวกรของทีม ก็ได้ออกมายอมรับและ เปิดเผยว่า ในการลงสนามแข่งครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมอีกทั้งยังทำให้ทีม BMW ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนารถแข่ง BMW iFE.18 ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการลงแข่งใน

นัดต่อไป วันนี้เราจึงได้นำ 3 บทเรียนที่ทีม BMW I Andretti Motosport ได้เรียนรู้จากสนามแข่ง The Mexico City E-Prix มาฝากกัน

อุณหภูมิยางรถ

                อุณหภูมิของยางรถแข่งเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ในฤดูกาลแรกนี้อุณหภูมิของยางรถ BMW iFE.18 กลายเป็นปัญหาของที่วิศวกร BMW I Andretti Motosport ต้องขบคิดและหาทางแก้กันอย่างหนักเนื่องจากเลย์เอาท์ของสนามรูปแบบพิเศษในสนามแข่ง Mexico City  นั้น เป็นสนามแข่งแบบถาวร ยางมะตอยในสนามจึงมีอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อมีความร้อนมากขึ้น ส่งผลให้ยางล้อหลังด้านซ้ายของรถแข่ง BMW มีอุณหภูมิสูง ขึ้นตามไปด้วย

ลำดับของนักแข่ง

                การจัดลำดับก่อนหลังของนักแข่งมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเข้าเส้นชัย ซึ่งจากประสบการณ์ในสนามแรกที่ผ่านมาพบว่าการจัดอันดับของนักแข่งของกลุ่ม 1 และกลุ่ม 2 ยังไม่สามารถทำเวลาได้เร็วพอที่จะสามารถคว้าชัยชนะจากการแข่งขันได้ อีกทั้งในช่วงกลางของการแข่งขันนักแข่งยังเกิดอุบัติเหตุแต่ยังโชคดีที่รถกระเด็นออกไปทางด้านหลังของสนาม และยังโชคดีที่เป็นอุบัติเหตุในช่วงกลางของการแข่งขันซึ่งก่อให้เกิดอันตรายได้น้อยกว่าช่วงเริ่มต้นของการแข่งขันมาก

การจัดการพลังงาน

                ดังสุภาษิตของการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่ว่า “To finish first, you first to finish” ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนในการแข่งขัน The Mexico City E-Prix เนื่องจากรถแข่งจำนวนมากสูญเสียพลังงานไปอย่างมากในรอบสุดท้าย แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับทีม BMW ที่ต้องยกความดีความชอบในเรื่องของความแม่นยำในการจัดการพลังงานให้กับทีมวิศวกร ที่ทำการคำนวณพลังงานอย่างละเอียดในทุกเปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ BMW iFE.18 สามารถจัดการพลังงานได้อย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพและสมบูรณ์แบบ ถือเป็นสิ่งที่ทีม BMW ทำได้ดีมากในการแข่งขันฤดูกาลแรกนี้

                ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าทีม BMW จะสามารถนำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ไปปรับปรุงและแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในสนามต่อ ๆ ไปได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งนอกจากทีม BMW I Andretti Motosport แล้ว ยังเชื่อว่าในการลงสนามแข่งนัดแรก ๆ ของฤดูกาลปี 2019 จะเป็นบททดสอบของรถแข่งจากค่ายและทีมอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน 

BMW 8 series Gran Coupe รถสปอร์ตมาแรงที่น่าจับตามองในปี 2019

หนึ่งในค่ายรถสปอร์ตที่ผู้ขับขี่สามารถซื้อมาใช้ขับบนท้องถนนได้ก็คือ BMW ที่ตอนนี้ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่น่าสนใจสำหรับปีหน้ากันเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจึงได้นำเอารถยนต์สปอร์ตสุดหรู BMW 8 series Gran Coupe รุ่นใหม่ปี 2019 มารีวิวถึงสมรรถนะทั้งภายในและภายนอกให้คนที่กำลังเลือกเล็งอยากได้รถสปอร์ตคันใหม่ได้พิจารณากัน

สเปคและรูปลักษณ์ภายนอก

                BMW 8 series Gran Coupe รุ่นใหม่ปี 2019 ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกเรียบร้อยแล้วที่งานมอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้นที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยในครั้งนี้เราได้เห็นการปรับโฉมครั้งใหม่ของรถรุ่นนี้ด้วยการออกแบบตะแกรงโครเมียมขนาดใหญ่เป็นโครงด้านนอก ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED แบบเพรียวบางที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของ BMW โดยเฉพาะ กันชนด้านล่างออกแบบมาในโมเดล M850i พร้อมระบบทำความเย็นแบบพิเศษที่ส่งตรงไปยังเครื่องยนต์และระบบเบรก

รถยนต์ BMW 8 series Gran Coupe 2019 จะให้คุณเข้าถึงสัมผัสของ BMW Series 8 อย่างแท้จริง ด้วยความยาวของตัวรถถึง 5 เมตร ทำให้ขนาดของประตูหลังค่อนข้างใหญ่ช่วยให้คนนั่งมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยให้สามารถรองรับตัวรถที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ได้ รถคันนี้ยังมีล้ออัลลอยด์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้วด้วย

การตกแต่งภายใน  

                BMW 8 series Gran Coupe ถูกออกแบบมาให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย รวมถึงความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารที่นั่งข้างหลัง รวมถึงขนาดภายในที่ออกแบบให้มีความกว้างขวางรองรับทุกอิริยาบถของผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี ไม่คับแคบเหมือนรถสปอร์ตรุ่นอื่น ๆ พร้อมหน้าต่างบานเล็กด้านข้าง จอควบคุมด้านหน้ามีขนาดใหญ่พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งาน iDrive Control เพื่อให้คนขับสามารถควบคุมการทำงานต่าง ๆ และสามารถมองเห็นสถานะต่าง ๆ ของรถได้  

ศักยภาพที่เหนือกว่า

                ปิดท้ายด้วยเรื่องของสมรรถนะ รถยนต์สปอร์ต BMW 8 series Gran Coupe คันนี้จะมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล พร้อมกระปุกเกียร์แบบอัตโนมัติ 8 สปีด ควบคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและพวงมาลัยแบบ 4 ล้อเช่นเดียวกัน โมเดล M850i ให้ประสิทธิภาพสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตรแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ความแรง 530 แรงม้า เพียงพอที่จะทำให้รถเก๋งขนาดใหญ่สามารถเร่งเครื่องจาก 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาไม่กี่วินาที ด้วยแรงบิด 1,800 รอบต่อนาที และเนื่องจากการโหลดที่ต่ำลงทำให้รถยนต์สปอร์ตของ BMW รุ่นนี้สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ 28.3 mpg

สำหรับราคาของ BMW 8 series Gran Coupe 4 ประตูคันนี้จะอยู่ที่ประมาณ 80,000 ปอนด์ ซึ่งหากจะเปรียบเทียบกับคู่แข่งในแวดวงรถสปอร์ตด้วยกันก็สามารถเทียบได้กับ Porsche Panama และ Mercedes CLS รุ่นไฮเอน สำหรับในประเทศไทย ราคาจะเปิดตัวที่เท่าไหร่ คงจะต้องติดตามกันอีกครั้งในช่วงกลางปี 2019

Top 10 รถสปอร์ตที่ดีที่สุดของปี 2018 (ตอนที่ 1)

ก่อนจะลากันไปในปี 2018 วันนี้เราได้นำเอาเรื่องราว 10 อันดับของรถสปอร์ตที่ได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ดีที่สุดของปีนี้มาฝากกัน จะมีค่ายรถจากแบรนด์ไหนกันบ้าง ไปดูกันเลย

  1. Porsche 911 Carrera รถยนต์ปอร์เช่สปอร์ต 911 ที่ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะให้เร็วและแรงกว่าเก่า พร้อมการติดตั้งระบบเทอร์โบ ระบบหล่อเย็นและระบบพวงมาลัยไฟฟ้าอัจฉริยะ ทำให้ปอร์เช่ 911 ถูกจัดเป็นรถยนต์สปอร์ตที่ดีที่สุดแห่งปี 2018
  2. Jaguar F-Type รถยนต์จากัวร์รุ่น F-Type เป็นรุ่นที่พิสูจน์ได้ว่าค่ายรถจากัวร์เป็นอีกหนึ่งในค่ายรถที่มีความสามารถในการผลิตรถยนต์สปอร์ตได้อย่างแท้จริงเหมือนกับค่ายรถเยอรมันเจ้าอื่น ๆ ซึ่งทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีเสน่ห์และคุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของอย่างไม่น่าเชื่อ และถึงแม้ว่า Jaguar F-Type จะไม่ได้เป็นรถยนต์สปอร์ตที่มีความโดดเด่นมากมายแถมยังมีข้อบกพร่องหลายอย่าง แต่รถยนต์รุ่นนี้ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างแบรนด์ของจากัวร์อีกครั้งในศตวรรษที่ 21 อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นรถที่สร้างแรงบันดาลใจในการขับขี่และยังรักษาตำนานของผู้ผลิตรถสปอร์ตไว้ได้เป็นอย่างดี ถึงจะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็ยังคงยอดเยี่ยม
  3. Lotus Evora เป็นรถยนต์สปอร์ตที่ไม่จำเป็นต้องมีคำถามหรือข้อสงสัยในเรื่องของสมรรถนะ และถึงแม้ว่าลูกค้าจะมีความต้องการรถที่มีสมรรถนะสูงกว่า แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีรถรุ่นที่มีสมรรถนะด้านไดนามิกที่สูงกว่ารถรุ่นนี้ออกมาวางจำหน่าย Lotus รุ่น Evora ถือเป็นการวางเกณฑ์มาตรฐานของรถยนต์สปอร์ตในการที่จะทำให้รถสามารถทรงตัวและผู้ขับขี่สามารถบังคับพวงมาลัยได้ในขณะที่รถกำลังขับเคลื่อนด้วยความแรง 410 แรงม้า
  4. BMW I8 หนึ่งในรถยนต์สปอร์ตรุ่นที่น่าสนใจมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ไม่เฉพาะสมรรถนะและความแรงในการขับขี่เท่านั้นแต่ทั้งรูปลักษณ์ภายในและภายนอกยังได้ถูกออกแบบมาด้วยความประณีตสวยงามแต่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย ทำให้ BMW I8 สามารถแบ่งยอดขายจาก Porsche 911 ไปได้โดยไม่ต้องสงสัย ทั้ง ๆ ที่ i8 เสียเปรียบเล็กน้อยในเรื่องความสมดุลของรถสปอร์ต
  5. Nissan GT-R เป็นรถรุ่นที่ให้ความเร็วและแรงได้อย่างคุ้มค่าสมกับราคา 100K ปอนด์ และไม่ใช่เฉพาะเรื่องความเร็วที่เยี่ยมยอดแต่เพียงอย่างเดียว แต่ Nissan GT-R ยังเป็นรถสปอร์ตจากญี่ปุ่นที่มีพร้อมความหรูหราและอุปกรณ์ภายในที่มีประสิทธิภาพที่แตกต่าง อีกทั้งระบบดิจิตอลของรถคันนี้ยังถูกออกแบบมาให้มีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

สำหรับรถอีก 5 รุ่นที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นรถสปอร์ตที่ดีที่สุดของปี 2018 จะเป็นรถยนต์จากค่ายใด ติดตามต่อได้ใน Top 10 รถสปอร์ตที่ดีที่สุดของปี 2018 (ตอนที่ 2)

BMW รถหรู ขวัญใจสาว  ๆ ที่นั่งติดอยู่ในลิทตลอดกาล

BMW รถหรู ขวัญใจสาว  ๆ ที่นั่งติดอยู่ในลิทตลอดกาล

BMW เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ของรถหรูที่ครองใจทั้งสาว ๆ หรือแม้แต่หนุ่ม ๆ ได้อย่างตลอดกาล วันนี้เราจึงขอพาคุณมาทำความรู้จักกับรถยนต์แบรนด์นี้ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังได้นำรถยนต์ BMW หลายรุ่นมาแนะนำสมรรถภาพให้คุณได้เห็นกัน จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างนั้น ไปดูกันเลย

ก่อนอื่น เรามาทราบที่มาที่ไปของเจ้ารถยนต์ BMW แบรนด์นี้กันก่อน BMW เป็นชื่อย่อที่มาจากภาษาเยอรมันว่า Bayerische Motoren Werke ซึ่งเป็นบริษัทยานยนต์ของประเทศเยอรมนีที่ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิก ซึ่งค่ายรถ BMW นี้ อย่างที่รู้กันว่าไม่ได้ผลิตเพียงรถยนต์ออกมาวางจำหน่ายเท่านั้น แต่ยังมีการผลิตรถจักรยานยนต์ออกมาวางจำหน่ายด้วย สำหรับรุ่นต่าง ๆ ของ BMW ที่มีการผลิตออกมาจำหน่าย จะมีชื่อเรียกที่ตั้งขึ้นแบ่งตาม Series ซึ่ง Series ที่เป็นที่รู้จัก ซึ่งเราได้นำมาแนะนำกันในวันนี้

  • BMW 3 Series เป็นรถยนต์นั่งประเภทหรูหราระดับต้น ๆ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดของ BMW ที่มีการผลิตออกมาจำหน่ายตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตรถยนต์ Series นี้ออกมาจำหน่ายแล้วทั้งหมด 5 รุ่น โดยรถยนต์ในซีรีย์นี้มีราคาประมาณ 2-12 ล้านบาท
  • BMW 7 Series เป็นรถยนต์นั่งประเภทหรูหราขนาดใหญ่ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์ที่ได้ชื่อว่าหรูหรา โด่งดัง และสมบูรณ์ที่สุดของ BMW โดยรถยนต์ซีรีย์ 7 ที่วางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้เป็นรถยนต์ Generation ที่ 6 ของ BMW 7 Series ซึ่งความโดดเด่นของรถยนต์รุ่นใหม่นี้อยู่ที่การลดน้ำหนักของตัวรถลงด้วยการผสมผสานใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา คือ ใช้ทั้งเหล็ก อะลูมิเนียม พลาสติก แมกนีเซียม และคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์หรูที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของ BMW ผสมผสานกับการออกแบบและดีไซน์อย่างหรูหรา ผสมผสานความเป็นรถสปอร์ตได้อย่างลงตัว ออกแบบกระจังหน้ามาเป็นรูปทรงไตคู่ พร้อมไฟหน้าทรงเหลี่ยมยาว ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหรา เรียบง่าย พร้อมฟังก์ชันความล้ำสมัยเข้าไปตามสไตล์ของ BMW
  • BMW Z4 เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง แบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ออกแบบมาเป็นสไตล์คูเป้และโรดสเตอร์ ปัจจุบันรถยนต์ซีรีย์นี้ได้มีการผลิตออกมาด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น โดยรุ่นปัจจุบันคือ E89 ที่มาพร้อมรูปแบบโรสเตอร์หลังคาแข็งเต็มตัวคล้ายกับ Mercedes Benz รุ่น SLK

Autosport911 เป็นเว็บไซต์ที่ได้รวบรวมเรื่องราว และข่าวคราวในวงการมอเตอร์สปอร์ตมาให้คุณได้ทราบก่อนใคร รวมถึงยังได้มีการนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถสปอร์ตรุ่นต่าง ๆ มาแนะนำกันด้วย เพราะฉะนั้นอย่ารอช้าเข้ามาเป็นแฟนของ Autosport911 กันได้แล้วตั้งแต่วันนี้