ดาการ์ แรลลี่การแข่งขันแรลลี่บนเส้นทางหฤโหดข้ามทวีป

การขับรถข้ามประเทศเป็นอีกหนึ่งอย่างที่เป็นการผจญภัยสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการขับรถยนต์ เพราะนอกจากจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทางแล้ว ยังได้สนุกกับการใช้ความเร็วที่เร้าใจในการขับขี่เดินทางข้ามประเทศอีกด้วย แต่โอกาสในการที่จะได้ขับข้ามประเทศของแต่ละคนคงมีไม่มากนัก สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดสำหรับคนที่ไม่มีโอกาสเดินทางข้ามประเทศคงเป็นการนั่งดูความเร้าใจผ่านทางหน้าจอทีวี

ซึ่งรายการแข่งขัน ดาการ์ แรลลี่ เป็นรายการที่ตอบโจทย์ความต้องการของการได้ผจญภัยอย่างเร้าใจและหฤโหดมากที่สุด โดย ดาการ์ แรลลี่ มีชื่อเดิมว่า ปารีส ดาการ์ แรลลี่ ได้มีการจัดการแข่งขันขึ้นในปี 1978 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเป็นจุดเริ่มต้นการแข่งขัน ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำการขับรถยนต์ผ่านเส้นทางจากปารีส ไปยังหลายประเทศ ได้แก่ แอลจีเรีย ไนเจอร์ มาลี และอัปเปอร์วอลตา หรือ บูร์กินาฟาโซในปัจจุบัน เป็นต้น เพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางที่กรุงดาการ์ เมืองหลวงของเซเนกัล รวมระยะทางที่ใช้ในการแข่งขันรวมได้ถึง 10000 กิโลเมตร และในครั้งแรกมีผู้เข้าร่วมแข่งขันถึง 183 ราย แบ่งเป็นรถยนต์ 80 คัน มอเตอร์ไซค์ 90 คัน และรถบรรทุก 12 คัน ผู้ชนะคนแรกของรายการนี้คือ ซีริล เนโว ชาวฝรั่งเศส

หลังจากมีการจัดการแข่งขันครั้งแรกเกิดขึ้นจนเป็นที่นิยมและเลื่องลือถึงความเร้าใจแบบหฤโหด และความสวยงามแบบที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหน ทำให้มีผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันมากขึ้นในทุกปี จนในปี 1988 มีจำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขันถึง 603 ราย เพิ่มมากถึง 3 เท่าในระยะเวลา 10 ปี จนกระทั่งในปี 2017 ในการแข่งขันครั้งที่ 39 ได้มีการสับเปลี่ยนจุดเริ่มต้นของการแข่งขันไปที่อซุนซิโอน ประเทศปารากวัย และใช้กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาเจนตินา เป็นจุดเส้นชัยแทน เป็นระยะทางรวมถึง 9000 กิโลเมตร ใน 12 ประเทศที่จะต้องตะลุยฝ่าด่านผ่านพิชิตทุกเส้นทางไปให้ได้

อุปสรรคมากมายในการแข่งขัน ดาการ์ แรลลี่ เต็มไปด้วยถนนวิบากที่มีหลุมบ่ออยู่แทบทุกเส้นทาง อีกทั้งพายุฝนจากธรรมชาติที่ต้องฟันฝ่า รวมถึงดินโคลนทรายดูดที่ทำให้รถยนต์ไม่สามารถผ่านทางไปได้โดยง่าย ทำให้การแข่งขันรายการนี้เป็นการแข่งขันที่เต็มไปด้วยการผจญภัย และการแก้ปัญหาระหว่างทางอย่างสนุกสนาน พร้อมทั้งยังได้มีโอกาสได้เห็นการใช้รถฝ่าฟันเส้นทางอันหฤโหดแบบท้าทายตลอดระยะทาง 9000 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่หลงใหลในวงการรถยนต์แล้วรายการแข่งขันนี้ถือได้ว่าเป็นรายการแข่งขันรถที่มีอรรถรสในการรับชมอย่างครบครันมากที่สุดในทุกการแข่งขันรถยนต์

 

แรลลี่โลกการแข่งขันที่สนุกสนานและดุดัน

การแข่งขันรถยนต์มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเสริมอรรถรสในชีวิตให้มีความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ พร้อมทั้งท้าทายบทบาทในความเป็นมนุษย์ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองไปสู่อีกระดับความมันส์ในชีวิต และหนึ่งการแข่งขันรถยนต์ที่มีผู้ชื่นชอบและติดตามอีกหนึ่งรายการคือ การแข่งขันรถยนต์แบบแรลลี่ ที่มาพร้อมกับความดุดันและสวยงาม พร้อมทั้งมีกิจกรรมระหว่างทางที่สร้างความสนุกสนานให้เกิดขึ้นในการแข่งขันอีกด้วย

การแข่งขันแบบแรลลี่ได้ถูกจัดขึ้นโดยสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติหรือ FIA โดยใช้ชื่อว่า World Rally Championship หรือ (WRC)  ซึ่งหลังจากมีจัดการแข่งขันรถยนต์ประเภทแรลลี่เกิดขึ้นผู้คนได้เรียกการแข่งขันรายการนี้ในอีกชื่อหนึ่งว่าการแข่งขันรถยนต์ทางฝุ่นชิงแชมป์โลก เพราะเป็นการแข่งขันที่ไม่มีสนามแข่งใช้เพียงพื้นที่สาธารณะทั่วไปเป็นการแข่งขัน โดยมีการจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี 1973 และทำการจัดการแข่งขันต่อมาจวบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปี1982-1986 เป็นปีที่ผู้คนนิยมทั้งในการรับชม และการฝึกขับรถยนต์แบบแรลลี่เป็นอย่างมาก

รูปแบบและกติกาการแข่งขันแรลลี่โลกมีการแข่งขันที่ใช้ถนนตามพื้นที่สาธารณะทั่วไปเป็นเส้นทางในการแข่งขันจากจุดเป้าหมายจุดหนึ่งไปยังจุดเป้าหมายอีกจุดหนึ่งจนกว่าจะถึงปลายทางเส้นชัยตามเวลาที่กำหนด โดยจุดเป้าหมายตามแต่ละที่จะถูกเรียกว่า TC (Timing Control)  และมีเลขต่อท้ายนับเรียงเริ่มจาก 1 ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงสถานที่สุดท้าย ในการแข่งขันแรลลี่จะเริ่มต้นปล่อยรถที่เข้าร่วมแข่งขันตามเบอร์ที่ได้รับไปทีละคันพร้อมทั้งแจ้งเวลาที่กำหนดในการเดินทางไปยัง TC ต่าง ๆ ที่ได้กำหนดไว้ และเมื่อได้รับหมายกำหนดการในการเดินทางแล้วผู้เข้าแข่งขันจะต้องเดินทางไปยังจุดที่กำหนดไว้ให้ทันเวลาที่กำหนดในแต่ละจุดหมาย ถ้าผู้เข้าแข่งขันไปถึงช้าหรือเร็วกว่าเวลาที่กำหนดผู้เข้าแข่งขันจะเสียแต้มนาทีละ 1 คะแนน ซึ่งในระหว่างการเดินทางในการแข่งขันจะต้องคอยค้นหารหัสตรวจสอบในการผ่านทางหรือเรียกว่า RC (Rule Check) ที่ซ่อนไว้ตามทางให้พบอีกด้วย

ทั้งต้องทำเวลาในการแข่งขัน ทั้งต้องตะลุยในเส้นทางวิบากอันตรายที่ไม่คาดคิด และยังต้องค้นหาปริศนาที่ซ่อนไว้ตามเส้นทาง ทำให้การแข่งขันแรลลี่เป็นการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ดุดัน และแข็งแกร่ง จนเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วทั้งโลก ซึ่งถ้าหากใครได้รับชมจะได้พบรถยนต์คันมหึมาราวกับราชสีห์ขับทะยานขึ้นบนเส้นทางวิบากอย่างองอาจแล้วถลาลงพื้นราวกับพญาอินทรีย์ที่ไม่สะทกสะท้านต่อความหฤโหดของผืนแผ่นดิน และหากใครได้เป็นผู้ชนะในการแข่งขันแรลลี่โลกจะถูกบันทึกไว้ในหอประวัติศาสตร์แรลลี่โลกอย่างสมเกียรติแห่งชัยชนะอีกด้วย