รถสปอร์ตรุ่นใหม่ที่กำลังจะมาในปี 2020

ข้ามช็อตกันไปเลยสำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต เพราะวันนี้เราได้นำเอารถสปอร์ตจากค่ายต่าง ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2020 มาฝากกัน

                โมเดลใหม่ทั้งหมดที่เรานำมาแนะนำในวันนี้อาจจะเป็นรุ่นที่ยังไม่คุ้นหูเท่าไหร่นักเนื่องจากเป็นโมเดลที่ยังไม่เคยมีการเปิดตัวมาก่อน จะมีรถรุ่นใหม่จากค่ายไหนจากนั้น เราไปดูกันเลย

  • 2020 Tesla Roadster รถไฟฟ้าสปอร์ตแบบคูเป้ที่จะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึงที่ 250 ไมล์ต่อชั่วโมงพร้อมระยะทางการขับขี่สูงสุด 620 ไมล์สำหรับราคาเริ่มต้นที่200,000ดอลลาร์สหรัฐ เป็นการออกแบบซูเปอร์คาร์ให้เหมาะกับการใช้สอยในชีวิตประจำวันด้วยที่นั่ง 4 ที่นั่งแตกต่างจากรถสปอร์ตโดยทั่วไปที่ส่วนใหญ่มีเพียง 2 ที่นั่งเท่านั้น
  • 2020 Toyota Supra ในปี 2020 นี้โตโยต้าจะได้นำโมเดลของรถสปอร์ตรุ่น Supra มาปัดฝุ่นใหม่ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพอีกครั้งด้วยความร่วมมือกับค่าย BMW ในการใส่เครื่องยนต์เทอร์โบอินไลน์ 3.0 ลิตรของ BMW ซึ่งให้กำลัง 335 แรงม้าและแรงบิด 365 ปอนด์ พร้อมเกียร์ระบบอัตโนมัติ 8 สปีด อีกทั้งยังมีการตกแต่งภายในที่คล้ายคลึงกับสไตล์ของ BMW ตลอดไปจนถึงการใช้ตัวควบคุม iDrive หน้าจอสัมผัสส่วนกลางและมาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถแสดงข้อมูลการขับขี่ได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ
  • 2020 Ford Mustang Shelby GT500 เป็นรถสปอร์ตที่ค่ายฟอร์ดเคลมว่าจะเป็นรถที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังมากที่ฟอร์ดเคยสร้างมา  ด้วยแรงม้าที่มากกว่า 700 แรงม้า โดดเด่นด้วยการออกแบบกระจังหน้าพร้อมโลโก้  Shelby Cobra ขนาดใหญ่ที่สามารถดึงดูดสายตาผู้ที่พบเห็นได้ในทันที
  • 2020 BMW M340i  เป็นรถสปอร์ตซีรีย์ 3 จาก BMW ที่ทรงพลังที่สุดที่เคยมีมาไม่รวมถึงรถรุ่น M3     ที่กำลังจะออกใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ด้วยเครื่องเทอร์โบชาร์จอินไลน์ 6  ที่ให้กำลัง 382 แรงม้าและแรงบิด 369 ปอนด์ต่อฟุต ให้กำลังแรงเพิ่มขึ้นเกือบ 130 แรงม้าเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ BMW Series 3 รุ่นก่อนหน้า มาพร้อมการออกแบบดีไซน์ทั้งภายในและภายนอกที่หรูหรา พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 ระดับ
  • 2020 Lexus LC Convertible รถยนต์Lexus สปอร์ตแบบเปิดประทุน ที่ออกแบบมาคล้ายกับรถเก๋งแต่ต่างกันตรงที่หลังคาที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ว่าจะต้องการใช้หลังคาที่ทำจากผ้าแบบอ่อนหรือต้องการหลังคาแบบแข็ง มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตรขนาด 471 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้เสียงที่นุ่มนวลเมื่อทำการเร่งเครื่องแบบกะทันหัน ภายในเป็นการตกแต่งในระดับพรีเมียมที่มีความหรูหราไม่แพ้กับ Porsche 911, Mercedes-Benz GT และ Audi R8 ห้องคนขับหุ้มด้วยวัสดุคุณภาพสูงพร้อมลวดลายแกะสลักอยู่บนอะลูมิเนียมและหนังกลับเกรดพรีเมียม สำหรับราคาเริ่มต้นที่ $ 92,300

ไม่เพียงรถสปอร์ตรุ่นใหม่ 5 รุ่นที่เรามาฝากข้างต้นเท่านั้น แต่ยังมีรถอีกหลายรุ่นที่กำลังจะเปิดตัว

ในปี 2020 ซึ่งเราจะได้นำเราสเปคและรายละเอียดมาให้คุณทราบกันในตอนต่อ ๆ ไป  

เปิดตัว Aston Martin Vantage 2019

Aston Martin เปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดกับ Aston Martin Vantage 2019 พร้อมดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวคงเอกลักษณ์ของการเป็นรถหรูระดับโลก ส่วนฟังก์ชั่นทั้งภายในและภายนอกจะมีความพิเศษอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลย

สเปคโดยรวม

                Aston Martin Vantage 2019 รุ่นใหม่มาพร้อมการออกแบบดีไซน์ที่สวยงามอย่างยอดเยี่ยมและแตกต่างไปจากรูปแบบของรถยนต์สปอร์ตสัญชาติอังกฤษไปโดยสิ้นเชิง เครื่องยนต์ Twin Turbo ขนาด 4 ลิตร V8 กำลัง 503 แรงม้า ระบบอัตโนมัติ 8 สปีดแบบเกียร์เดียว แรงบิด 505 ปอนด์ต่อฟุต อีกทั้งยังมีรุ่นเกียร์ Manual 7 สปีดที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ การควบคุมการทำงานของรถทั้งหมดเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ วัสดุทั้งภายในและภายนอกมีคุณภาพสูงอีกทั้งลูกค้ายังสามารถออกแบบพร้อมตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามที่ต้องการ พร้อมรายการของอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ อีกมากมาย

ความโดดเด่นและสมรรถนะของเครื่องยนต์

                Aston Martin Vantage 2019 ได้ทำงานร่วมกับ Mercedes Benz เพื่อให้ได้เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะ V8 เทอร์โบคู่ที่ช่วยให้รถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 3.6 วินาที และสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 313 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คือเรื่องที่น่าทึ่ง สร้างความแข็งแกร่งพร้อมความอัตโนมัติที่ทันสมัย มีชุดเฟืองท้ายที่สามารถปรับได้ มาพร้อมกับระบบควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ โหมด Sport, Sport Plus และ Track tailor

การตกแต่งภายในและภายนอก

                เป็นการผสมผสานการออกแบบอย่างลงตัวด้วยเทคโนโลยีแบบสปอร์ตที่มีความทันสมัยร่วมกับ Vibrant Lime Essence อัดพลังงานพิเศษเพื่อช่วยให้ตัวรถมีความเงางามพร้อมกับความเบาของคาร์บอนไฟเบอร์ สี ภายนอกที่ใช้ในการออกแบบรถรุ่นนี้เป็นการใช้สีถึง 41 เฉด โดยผู้ซื้อสามารถออกแบบสีรถที่ตัวเองต้องการได้ถึง 16 แบบ โดยเน้นโทนสีที่มีความสดใส สะดุดตา เพื่อเจาะตลาดของคนรักรถสปอร์ตรุ่นใหม่ 

 การตกแต่งภายใน

                Aston Martin Vantage 2019 เป็นรถสปอร์ต 5 ประตูด้านในประกอบด้วยคอนโซลกลาง เครื่องเสียงและวิทยุพร้อมปุ่ม HVAC และวัสดุเกรดระดับพรีเมียมไม่ว่าจะเป็นอะลูมิเนียม ปุ่มแก้ว รวมถึงหนังคุณภาพสูงที่เรียกได้ว่าดีที่สุดจาก Bridge of Weir พร้อมระบบสั่งการที่ชาญฉลาดไม่แพ้กับรถสปอร์ตจากค่าย Mercedes Benz ไม่ว่าจะเป็นระบบ Android Play และ Apple Car Play รวมถึงระบบสั่งการอื่น ๆ ภายในรถยังออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานของคนรักเทคโนโลยี อีกทั้งยังสามารถออกแบบเฉดสีสำหรับการตกแต่งภายในด้วยตัวเองได้ถึง 10 เฉดสีและสามารถเลือกสีของเข็มขัดนิรภัยได้ถึง 6 แบบ

                ราคาในเมืองไทยสำหรับรถรุ่นนี้อยู่ที่ 16.99 ล้านบาท ถือว่าเป็นราคาเปิดตัวที่แพงกว่ารถสปอร์ตของ Aston Martin รุ่นก่อน ๆ  แฟนรถสปอร์ตคนใดสนใจก็ลองไปชมหรือสอบถามรายละเอียดกันได้ที่โชวรูมชั้นนำทั่วประเทศ

F1 2019 สิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับแฟน ๆ รถแข่งสูตร 1

                อีกไม่กี่เดือนการแข่งขันรถ F1 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนท์รถแข่งอันดับ 1 ของโลกก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ในปีหน้าจะมีเหตุการณ์อะไรที่น่าสนใจ และทีมไหนรวมถึงนักแข่งคนใดที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ วันนี้เราจะมาชี้เป้าให้กับแฟน ๆ ได้เตรียมความพร้อมและทำการบ้านก่อนการเปิดสนามกัน

โอกาสของ Redbull

นับเป็นฤดูกาลที่ 5 ติดต่อกันแล้วที่ Redbull ไม่สามารถคว้าแชมป์ F1 ได้หลังจากที่เคยทำสำเร็จมาก่อน เนื่องจากทีมงานของ Milton Keynes ไม่ได้เอาเครื่องยนต์เทอร์โบ V6 แบบไฮบริดมาใช้ทำให้เครื่องยนต์ Renault ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสทธิภาพ แต่ถึงอย่างไรก็ตามสำหรับฤดูกาล 2019 ที่ Redbull ได้จับมือกับทีมฮอนด้านั้น เชื่อว่าในการจับมือกันครั้งนี้จะสามารถสร้างความตื่นเต้น สามารถพัฒนาศักยภาพของเครื่องยนต์และทำให้แฟน ๆ ของ Redbull ได้ลุ้นกับการคว้าแชมป์ในฤดูกาลใหม่อีกครั้ง

ผลงานของ Halmilton

สำหรับฤดูกาลหน้าก็คงต้องติดตามว่าแชมป์โลกอย่าง Halmilton จะสามารถรักษาระดับของฝีมือและรักษาตำแหน่งแชมป์ไว้ได้หรือไม่ เพราะตอนนี้ Halmilton ได้ถูกจัดอยู่ในอันดับเดียวกับ Michael Schumacher และ Juan Manuel เรียบร้อยแล้ว และผลงานของเขาในปี 2018 ก็ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จที่สุดของนักแข่งชาวอังกฤษผู้นี้อีกทั้งเค้ายังได้ต่อสัญญากับทีม Mercedes ไปจนถึงปี 2020 เป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกด้วย

Vettle กับทีม Ferrari

ถือเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขเพื่อนำไปสู่การคว้าชัยชนะให้ได้สำหรับ Vettle และทีม Ferrari เพราะจากผลงานปี 2018 จะเห็นได้ว่าเขาเฉียดฉิวที่จะได้แชมป์เต็มที หากไม่เกิดความผิดพลาดของทีมเสียก่อน ซึ่งถือเป็นการบ้านที่ใหญ่หลวงของทีมงานเฟอร์รารี่รวมถึงนักแข่งที่ต้องใช้การประสานงาน ความสามัคคีและความร่วมมือร่วมใจกันอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงและแก้ไขข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกให้ได้ ซึ่งล่าสุดเฟอร์รารี่จะเป็นทีมแรกที่ทำการเปิดตัวรถแข่งที่จะใช้ในการแข่งขัน Formula 1 ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งทีมงานของเฟอร์รารี่ได้ทำการปรับปรุงและพัฒนารถที่ชื่อว่า Maranello โปรเจค 670 มาเป็นระยะเวลานานหลายเดือนแล้ว รวมถึงนักแข่งอย่าง Vettle และ Scuderia ก็ได้ทำการต่อสัญญากับเฟอร์รารี่เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน

Renault กับ MaLaren

                ล่าสุด Renault ได้ออกมาบอกว่าตอนนี้เขาได้ค้นพบเครื่องยนต์ที่สามารถให้กิโลวัตต์ที่มากกว่าเพื่อใช้บรรจุในรถแข่งของทีม McLaren ได้แล้ว จากในปีที่แล้วที่ทีมวิศวกรชาวฝรั่งเศสโชว์ผลงานได้ไม่นัก แต่สำหรับปี 2019 เชื่อว่าเครื่องยนต์ของ Renault จะได้รับการพัฒนาและมีศักยภาพมากกว่าเก่า อีกทั้งทีม McLaren ยังเชื่อว่าการแก้ข้อผิดพลาดที่นำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาในครั้งนี้จะทำให้รถแข่งของทีม McLaren สามารถทำผลงานในปี 2019 ได้อย่างดีเยี่ยม

สำหรับปฏิทินการแข่งขันของ F1 ฤดูกาล 2019 ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะมีการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 21 สนาม และจะเริ่มแข่งสนามแรกในวันที่ 17 มีนาคม 2562

Aston Martin เปิดตัวรถรุ่นใหม่ 2019 Aston Martin Valkyrie

ใครที่กำลังสนในข่าวคราวการเปิดตัวของค่ายรถสปอร์ตระดับโลกรุ่นใหม่ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังหากคุณติดตามเว็บไซต์ของเรา เพราะวันนี้เราได้นำเอารถรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Aston Martin ที่จะวางจำหน่ายในปี 2019 มาฝากกัน

2019 Aston Martin Valkyrie

2019 Aston Martin Valkyrie จัดเป็นรถสปอร์ตไฮเปอร์คาร์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเครื่องยนต์ V12 ที่จัดเป็นเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงสุดที่สามารถสร้างความตื่นเต้นและเร้าใจให้กับแฟน ๆ รถสปอร์ตได้เป็นอย่างดี

Cosworth บริษัทวิศวกรรมยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้พัฒนาเครื่องยนต์ยืนยันว่าเครื่องยนต์ V12 ของ Valkyrie เป็นเครื่องยนต์ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 1,000 แรงม้าและสามารถทำรอบได้สูงสุดถึง 10,500 รอบต่อนาที ไม่เพียงเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาให้มีศักยภาพเหมือนรถแข่งเท่านั้นรูปแบบการดีไซน์ของรถคันนี้ยังถูกออกแบบมาให้เหมือนกับรถแข่งอีกด้วย พร้อมกับการติดตั้งระบบให้สามารถควบคุมการปล่อยมลพิษตามกฎของ World Master Test

Cosworth ตั้งเป้าไว้ว่าเครื่องยนต์ของรถคันนี้จะสามารถรองรับการใช้งานได้ถึง 100,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับผู้ขับขี่ที่ดูแลรักษารถยนต์คันนี้เป็นประจำ อีกทั้งระบบ Hybrid ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถคันนี้ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ช่วยขับเคลื่อนเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี

การออกแบบภายนอกและภายในรถ

                รูปลักษณ์ของรถรุ่นนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Adrian Newey ผู้ออกแบบรถแข่งที่ทีม RedBull ใช้ในการแข่งขัน Formula 1 ซึ่งเคยคว้าแชมป์มาแล้วหลายสมัย และได้เอาชื่อรถ Valkyrie มาตั้งเป็นชื่อรุ่นของรถยนต์ Aston Martin รุ่นใหม่นี้เช่นเดียวกัน เนื่องจากคุณสมบัติของรถไฮเปอร์คาร์ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษอีกทั้งยังมีวงจรของเครื่องยนต์ที่มีความเร็วเทียบเท่ากับรถแข่ง F1

รถสปอร์ตที่มีลักษณะภายนอกแข็งแกร่งและแข็งกร้าวคันนี้ดูเหมือนว่าโครงรถจะไม่สามารถปกปิดตัวฐานของรถได้อย่างมิดชิด ท่ออากาศขนาดใหญ่ 2 ท่อที่อยู่ใต้โครงฐานทำหน้าที่ช่วยเพิ่มแรงกดในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงเช่นเดียวกับปีกขนาดเล็กที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถูกติดตั้งไว้ที่กันชนด้านหน้า

การตกแต่งภายในเป็นการออกแบบที่ปราศจากความหรูหราใด ๆ แต่เน้นไปที่การทำให้รถมีน้ำหนักเบาเพื่อช่วยรักษาความเสถียรในการทรงตัวในขณะเข้าโค้งและเพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมันเป็นหลัก แต่สิ่งหนึ่งที่มีความหรูหราอย่างเหนือระดับก็คือจอดิจิตอล 2 จอที่อยู่บริเวณด้านหน้าคนขับ

สำหรับการวางจำหน่ายของ Aston Martin Valkyrie รุ่นปี 2019 นั้น ตอนนี้ได้มีการผลิตรถตัวอย่างสำหรับ Road Going Valkyrie และ Track – Only Valkyrie AMP Pro เพียงแค่ 150 คันเท่านั้น ซึ่ง Aston Martin กล่าวว่าในอนาคตจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นหาก Aston Martin Valkyrie รุ่นปี 2019 ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนเรื่องราคาตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่แน่นอนว่ารถยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ซื้อเฉพาะกลุ่ม Hi End เท่านั้น

BMW 8 series Gran Coupe รถสปอร์ตมาแรงที่น่าจับตามองในปี 2019

หนึ่งในค่ายรถสปอร์ตที่ผู้ขับขี่สามารถซื้อมาใช้ขับบนท้องถนนได้ก็คือ BMW ที่ตอนนี้ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่น่าสนใจสำหรับปีหน้ากันเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจึงได้นำเอารถยนต์สปอร์ตสุดหรู BMW 8 series Gran Coupe รุ่นใหม่ปี 2019 มารีวิวถึงสมรรถนะทั้งภายในและภายนอกให้คนที่กำลังเลือกเล็งอยากได้รถสปอร์ตคันใหม่ได้พิจารณากัน

สเปคและรูปลักษณ์ภายนอก

                BMW 8 series Gran Coupe รุ่นใหม่ปี 2019 ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกเรียบร้อยแล้วที่งานมอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้นที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยในครั้งนี้เราได้เห็นการปรับโฉมครั้งใหม่ของรถรุ่นนี้ด้วยการออกแบบตะแกรงโครเมียมขนาดใหญ่เป็นโครงด้านนอก ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED แบบเพรียวบางที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของ BMW โดยเฉพาะ กันชนด้านล่างออกแบบมาในโมเดล M850i พร้อมระบบทำความเย็นแบบพิเศษที่ส่งตรงไปยังเครื่องยนต์และระบบเบรก

รถยนต์ BMW 8 series Gran Coupe 2019 จะให้คุณเข้าถึงสัมผัสของ BMW Series 8 อย่างแท้จริง ด้วยความยาวของตัวรถถึง 5 เมตร ทำให้ขนาดของประตูหลังค่อนข้างใหญ่ช่วยให้คนนั่งมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยให้สามารถรองรับตัวรถที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ได้ รถคันนี้ยังมีล้ออัลลอยด์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้วด้วย

การตกแต่งภายใน  

                BMW 8 series Gran Coupe ถูกออกแบบมาให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย รวมถึงความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารที่นั่งข้างหลัง รวมถึงขนาดภายในที่ออกแบบให้มีความกว้างขวางรองรับทุกอิริยาบถของผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี ไม่คับแคบเหมือนรถสปอร์ตรุ่นอื่น ๆ พร้อมหน้าต่างบานเล็กด้านข้าง จอควบคุมด้านหน้ามีขนาดใหญ่พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งาน iDrive Control เพื่อให้คนขับสามารถควบคุมการทำงานต่าง ๆ และสามารถมองเห็นสถานะต่าง ๆ ของรถได้  

ศักยภาพที่เหนือกว่า

                ปิดท้ายด้วยเรื่องของสมรรถนะ รถยนต์สปอร์ต BMW 8 series Gran Coupe คันนี้จะมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล พร้อมกระปุกเกียร์แบบอัตโนมัติ 8 สปีด ควบคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและพวงมาลัยแบบ 4 ล้อเช่นเดียวกัน โมเดล M850i ให้ประสิทธิภาพสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตรแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ความแรง 530 แรงม้า เพียงพอที่จะทำให้รถเก๋งขนาดใหญ่สามารถเร่งเครื่องจาก 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาไม่กี่วินาที ด้วยแรงบิด 1,800 รอบต่อนาที และเนื่องจากการโหลดที่ต่ำลงทำให้รถยนต์สปอร์ตของ BMW รุ่นนี้สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ 28.3 mpg

สำหรับราคาของ BMW 8 series Gran Coupe 4 ประตูคันนี้จะอยู่ที่ประมาณ 80,000 ปอนด์ ซึ่งหากจะเปรียบเทียบกับคู่แข่งในแวดวงรถสปอร์ตด้วยกันก็สามารถเทียบได้กับ Porsche Panama และ Mercedes CLS รุ่นไฮเอน สำหรับในประเทศไทย ราคาจะเปิดตัวที่เท่าไหร่ คงจะต้องติดตามกันอีกครั้งในช่วงกลางปี 2019

เปิดตัว Porsche 911 New 2019   

ปิดท้ายปี 2018 เตรียมรับปีหน้าฟ้าใหม่สำหรับวงการรถสปอร์ตกับเจ้าแห่งความเร็ว แรง และความหรูระดับพรีเมี่ยมอย่างปอร์เช่ ที่เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมรับปี 2019 กับ Porsche 911 ที่มาพร้อมสมรรถนะและความแรง รถยนต์สปอร์ตจากค่ายดังระดับโลกรุ่นนี้จะมีอะไรใหม่ที่น่าตื่นเต้นกันบ้าง เราไปดูกันเลย

Generation ที่ 8 ของรถสปอร์ตจากปอร์เช่

                Porsche 911 รุ่น New 2019 นี้เป็นการเปิดตัวรถยนต์สปอร์ตจากค่ายปอร์เช่ที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือเครื่องยนต์เบนซินแบบเทอร์โบ 6 สูบที่ปรับปรุงใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้การเปิดตัวรถยนต์ปอร์เช่รุ่นใหม่รุ่นนี้ถือเป็นไฮไลท์ของงานมอเตอร์โชว์ที่เมืองลอสแอนเจลิส เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่าน

สมรรถนะของ Porsche 911 (992)

                เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเป็นการปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่ในรูปแบบแนวนอนโดยมีกระบวนการฉีดเชื้อเพลิงแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงรถรุ่นใหม่โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้เทียบเท่าได้กับรถ 2 ประตูของค่ายคู่แข่งอื่น เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาด 3 ลิตรที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังของตัวรถมีพลังแรงมากกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย สามารถใช้ได้ทั้งกับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดมาตรฐานเกียร์อันโนมัติแบบ 8 จังหวะใหม่ได้

ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง Carrera S และ ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 wheel drive Carrera 4S เป็นระบบขับเคลื่อนใหม่ที่ให้กำลังแรงม้ามากกว่าเดิม 30 แรงม้า เป็น 444 แรงม้า พร้อมการปรับเกียร์โฉมใหม่ของเกียร์คลัชคู่ที่ทำให้ประหยัดเวลาในการขับเคลื่อนได้มากกว่าเดิม 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ Porsche 911 หรือรุ่น 992 ตามชื่อเรียกรหัสใหม่ยังออกแบบให้ด้านหลังของรถมีการปรับปรุงเรื่องการกระจายน้ำหนัก ปีกด้านหลังมีความกว้างมากกว่า กันชนมีองค์ประกอบที่โดดเด่นกว่า ฝากระโปรงยาวและมีการไล่ชั้นเชิงมากขึ้น ฐานล้อกว้างกว่าเดิมเล็กน้อย มิติภายนอกทั้งหมดมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า

ภายในห้องโดยสารเป็นการปรับปรุงโดยได้รับแรงบันดาลใจมากจาก Porsche 911 ยุค 70’s มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นใหม่พร้อมระบบตอบรับการหมุนรอบตัวของโหมด Sport ที่ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดการขับได้ หน้าปัดห้าเหลี่ยมที่จะแสดงข้อมูลดิจิตอลทั้งหมดให้ผู้ขับขี่ทราบ และหน้าจอระบบสัมผัสเพื่อช่วยให้สามารถจัดการข้อมูล เชื่อมต่อฟังก์ชั่นต่าง และมีระบบนำทางแบบออนไลน์ที่สามารถเปิดใช้งานได้ทันที พร้อมชุดเกียร์แบบใหม่ ชุดสวิตซ์เบรกมืออิเล็กทรอนิกส์ และสวิตซ์แบบสัมผัสเพื่อเปลี่ยนฟังก์ชั่นต่าง ๆ และแอปพลิเคชั่นพิเศษ 3 แอปจาก Porsche คือ Porsche Roadtrip ตัวช่วยการนำทางจากปอร์เช่ Porche Impact การคำนวณผลจากการที่รถปล่อยสาร Co2 ออกไป และ Porsche 360+ ตัวช่วยในการบริหารจัดการชีวิตส่วนตัวของผู้ขับขี่

หากใครสนใจ Porsche 911 ปัจจุบันในต่างประเทศได้เริ่มให้มีการเปิดจองแล้ว 2 รุ่นคือ Carrera S และรุ่น 4S ที่มาพร้อมกระปุกเกียร์ PDK สนนราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 93,110 – 98,418 ปอนด์ ซึ่งจะเริ่มรับรถได้ปีหน้า แต่สำหรับราคาจำหน่ายในเมืองไทยก็ต้องติดตามกันต่อไป

Lamborghini รถยอดนิยมเหล่ามหาเศรษฐี ติดอันดับโลก

Lamborghini รถยอดนิยมเหล่ามหาเศรษฐี ติดอันดับโลก

                เมื่อพูดถึงรถสปอรต์หรูที่มีราคาแพงอันดับต้น ๆ ของโลก หนึ่งในนั้นก็คือรถสปอร์ตยี่ห้อ Lamborghini (ลัมโบร์กินี) วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับรถยนต์ค่ายนี้ให้ดียิ่งขึ้น และรับรองว่าข้อมูลและเกร็ดความรู้ที่เราได้นำมาบอกกัน จะทำให้คุณหายสงสัยได้ว่าทำไมรถสปอร์ตยี่ห้อนี้ ถึงได้มีราคาแพงขนาดนี้

Lamborghini (ลัมโบร์กินี) เป็นอีกหนึ่งในรถยนต์สัญชาติอิตาลี เช่นเดียวกับ Ferrari ที่ทั้งสองค่ายนี้เป็นคู่แข่งที่สำคัญกัน และได้ชื่อว่าเป็นรถที่มีความเร็วพร้อมกับความหรูในระดับเทียบเท่ากัน และด้านล่างนี้ คือ รุ่นต่าง ๆ ของรถยนต์ Lamborghini ที่เรานำมาแนะนำกัน

  • Lamborghini Aventador (ลัมโบร์กินี อะเวนตาโด) เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง ออกแบบมาให้มีรูปทรงแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อน 4 ล้อ รถยนต์รุ่นนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นรถยนต์รุ่นที่ดีที่สุดที่ลัมโบร์กินีเคยได้ผลิตมา และถือเป็นซูเปอร์คาร์ ที่มีเครื่อง V12 ที่เป็นมิตรมากที่สุดในโลก สำหรับรถยนต์ Lamborghini Aventador ได้มีการผลิตรุ่นต่าง ๆ ออกมาวางจำหน่ายหลายรุ่น คือ รุ่นแอลพี 700-4 ซึ่งมีการผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 4,000 คันทั่วโลกเท่านั้น, รุ่นแอลพี 700-4 โรดสเตอร์ รุ่นที่มีการออกแบบหลังคาทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ให้สามารถเปิดประทุนได้, รุ่นอะเวนตาโด เจ รุ่นที่ไม่มีทั้งหลังคาและเครื่องปรับอากาศทำให้รถมีน้ำหนักเบาขึ้น ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้มีราคาสูงถึง 84 ล้านบาท
  • Lamborghini Reventon (ลัมโบร์กินี เรเบนตัน) เป็นรถยนต์ที่มีราคาสูงสุดที่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ ที่กรุงแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในปี 2007 ด้วยสนนราคาที่ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 45 ล้านบาทไทย รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงสามารถวิ่งได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 356 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับแรงบันดาลใจในการออกแบบรถสปอร์ตจากค่ายลัมโบร์กินีรุ่นนี้ ก็มาจากไอเดียของเครื่องบินขับไล่ที่เร็วที่สุดนั่นเอง สิ่งสำคัญที่ทำให้เจ้ารถยี่ห้องลัมโบร์กินีมีราคาสูงก็เพราะว่า ในแต่ละรุ่นมีการผลิตรถยนต์ออกมาจำกัดจำนวน อย่างรถยนต์ลัมโบร์กีนี เรเบนตันรุ่นนี้ที่มีการผลิตออกมาเพียง 20 คันเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีรถยนต์เรเบนตัน โรดสเตอร์ ที่ผลิตออกมาเพียงแค่ 15 คันเท่านั้น ซึ่งมีราคาคันละ 42 ล้านบาท

หากคุณชื่นชอบและเป็นสาวกของเหล่ารถสปอร์ตทั้งหลาย Autosport911 เป็นเว็บไซต์ที่ได้รวบรวมเอาเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับรถสปอร์ต รวมถึงรถสปอร์ตรุ่นใหม่จากแบรนด์ดังระดับโลกเอาไว้อย่างมากมาย มาเสิร์ฟเป็นข้อมูลให้กับคุณแล้ว มาติดตามเรื่องราวของเรากันได้ตั้งแต่วันนี้

 

BMW รถหรู ขวัญใจสาว  ๆ ที่นั่งติดอยู่ในลิทตลอดกาล

BMW รถหรู ขวัญใจสาว  ๆ ที่นั่งติดอยู่ในลิทตลอดกาล

BMW เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ของรถหรูที่ครองใจทั้งสาว ๆ หรือแม้แต่หนุ่ม ๆ ได้อย่างตลอดกาล วันนี้เราจึงขอพาคุณมาทำความรู้จักกับรถยนต์แบรนด์นี้ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังได้นำรถยนต์ BMW หลายรุ่นมาแนะนำสมรรถภาพให้คุณได้เห็นกัน จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างนั้น ไปดูกันเลย

ก่อนอื่น เรามาทราบที่มาที่ไปของเจ้ารถยนต์ BMW แบรนด์นี้กันก่อน BMW เป็นชื่อย่อที่มาจากภาษาเยอรมันว่า Bayerische Motoren Werke ซึ่งเป็นบริษัทยานยนต์ของประเทศเยอรมนีที่ตั้งอยู่ในเมืองมิวนิก ซึ่งค่ายรถ BMW นี้ อย่างที่รู้กันว่าไม่ได้ผลิตเพียงรถยนต์ออกมาวางจำหน่ายเท่านั้น แต่ยังมีการผลิตรถจักรยานยนต์ออกมาวางจำหน่ายด้วย สำหรับรุ่นต่าง ๆ ของ BMW ที่มีการผลิตออกมาจำหน่าย จะมีชื่อเรียกที่ตั้งขึ้นแบ่งตาม Series ซึ่ง Series ที่เป็นที่รู้จัก ซึ่งเราได้นำมาแนะนำกันในวันนี้

  • BMW 3 Series เป็นรถยนต์นั่งประเภทหรูหราระดับต้น ๆ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดของ BMW ที่มีการผลิตออกมาจำหน่ายตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตรถยนต์ Series นี้ออกมาจำหน่ายแล้วทั้งหมด 5 รุ่น โดยรถยนต์ในซีรีย์นี้มีราคาประมาณ 2-12 ล้านบาท
  • BMW 7 Series เป็นรถยนต์นั่งประเภทหรูหราขนาดใหญ่ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์ที่ได้ชื่อว่าหรูหรา โด่งดัง และสมบูรณ์ที่สุดของ BMW โดยรถยนต์ซีรีย์ 7 ที่วางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้เป็นรถยนต์ Generation ที่ 6 ของ BMW 7 Series ซึ่งความโดดเด่นของรถยนต์รุ่นใหม่นี้อยู่ที่การลดน้ำหนักของตัวรถลงด้วยการผสมผสานใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา คือ ใช้ทั้งเหล็ก อะลูมิเนียม พลาสติก แมกนีเซียม และคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์หรูที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของ BMW ผสมผสานกับการออกแบบและดีไซน์อย่างหรูหรา ผสมผสานความเป็นรถสปอร์ตได้อย่างลงตัว ออกแบบกระจังหน้ามาเป็นรูปทรงไตคู่ พร้อมไฟหน้าทรงเหลี่ยมยาว ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหรา เรียบง่าย พร้อมฟังก์ชันความล้ำสมัยเข้าไปตามสไตล์ของ BMW
  • BMW Z4 เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง แบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ออกแบบมาเป็นสไตล์คูเป้และโรดสเตอร์ ปัจจุบันรถยนต์ซีรีย์นี้ได้มีการผลิตออกมาด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น โดยรุ่นปัจจุบันคือ E89 ที่มาพร้อมรูปแบบโรสเตอร์หลังคาแข็งเต็มตัวคล้ายกับ Mercedes Benz รุ่น SLK

Autosport911 เป็นเว็บไซต์ที่ได้รวบรวมเรื่องราว และข่าวคราวในวงการมอเตอร์สปอร์ตมาให้คุณได้ทราบก่อนใคร รวมถึงยังได้มีการนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรถสปอร์ตรุ่นต่าง ๆ มาแนะนำกันด้วย เพราะฉะนั้นอย่ารอช้าเข้ามาเป็นแฟนของ Autosport911 กันได้แล้วตั้งแต่วันนี้

Porsche รถสปอร์ตในฝันของชายหนุ่มทุกคน

Porsche รถสปอร์ตในฝันของชายหนุ่มทุกคน

                Porsche หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่ารถปอร์เช่ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถสปอร์ตในฝันของหนุ่ม ๆ ที่อยากจะจับจองเป็นเจ้าของหรือได้ทดลองขับสักครั้งในชีวิต วันนี้เราจึงได้นำเรื่องราวความเป็นมากว่าจะได้เป็นแบรนด์รถยนต์หรูที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จักทั่วโลกมาฝาก พร้อมกับได้นำรถ Porsche รุ่นต่าง ๆ มาแนะนำกัน

Porsche เป็นค่ายรถจากประเทศเยอรมนี ที่ก่อตั้งโดยวิศวกรชาวออสเตรีย ซึ่งเริ่มมีการผลิตรถยนต์จำหน่ายเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1948 และได้ใช้ตราประจำเมือง Stuttgart เป็นตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ สำหรับรถยนต์ที่มีการผลิตออกมาจำหน่ายมีมากมายหลายรุ่น และมีความสุดยอดเป็นเอกลักษณ์ทุกรุ่น ซึ่ง 3 รุ่นที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดซูเปอร์คาร์ในฝันเลย

  • ปอร์เช่ 911 รถยนต์นั่งสมรรถนะสูง แบบเครื่องยนต์กลางลำ ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะ 2 ประตู 4 ที่นั่ง รถรุ่นนี้ถือเป็นรถต้นแบบให้กับรถยนต์ปอร์เช่อีกหลาย ๆ รุ่น ความโดดเด่นของปอร์เช่ 911 คือ ไฟหน้าเป็นการออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นตากลมคู่ หลังคาโค้งเรียบไปจนถึงตอนท้ายรถ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างความโดดเด่น ไม่เหมือนใครให้กับรถยนต์ปอร์เช่นั่นเอง
  • ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง 2 ประตู 2 ที่นั่งขนาด 6 สูบ เครื่องยนต์กลางลำท้าย เป็นรถสปอร์ตแบบเปิดประทุน ซึ่งมีการผลิตออกมาจำหน่ายแล้วด้วยกัน 4 โฉม ได้แก่ ปอร์เช่ 986 ซึ่งเป็นรถที่ออกแบบมาให้เป็นสีเงินเมทัลลิกทุกคัน ภายในเป็นการตกแต่งด้วยหนังสัตว์สีน้ำตาลทั้งหมด, ปอร์เช่ 987 มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบ สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ที่ 256-272 กิโลเมตรต่อชั่วโมง, หลังคาของ ปอร์เช่ 981 ผลิตจากแมกนีเซียมหุ้มด้วยผ้าบางซึ่งมีความแข็งแรง อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา สามารถพับเก็บได้ และรุ่นล่าสุด คือ ปอร์เช่ 718 ที่มีการพัฒนาและนำเสนอเครื่องยนต์แบบใหม่ คือ เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ที่สามารถเพิ่มแรงม้าและแรงบิดได้มากขึ้นแต่สามารถลดการใช้พลังงานลง
  • ปอร์เช่ เคย์แมน เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูงแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ซึ่งชื่อเคย์แมน (Caiman) ของรถยนต์รุ่นนี้เป็นชื่อของสัตว์เลื้อยคลานจำพวกจระเข้นั่นเอง เครื่องยนต์ของรถรุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อน 2 ล้อท้าย ส่วนประตูเป็นประตูบานเปิดแบบธรรมดา

หากคุณสนใจและชื่นชอบในรถสปอร์ต ไปจนถึงการแข่งรถสปอร์ตในสนามการแข่งขันต่าง ๆ Autosport911 เป็นเว็บไซต์ที่ได้รวบรวมทุกข่าวสารและความบันเทิงเกี่ยวกับวงการมอเตอร์สปอร์ตเอาไว้แล้วอย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีการอัพเดตผลการแข่งขันมาให้คุณได้ทราบก่อนใคร ที่นี่ที่เดียว!!

Mercedes แบรนด์รถสปอร์ตขวัญใจชาวไทย

Mercedes แบรนด์รถสปอร์ตขวัญใจชาวไทย

                เมื่อเอ่ยชื่อรถแบรนด์ดังอย่าง Mercedes หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือรถเบนซ์ หลายคนก็คงจะทราบกันดีว่ารถยนต์หรูแบรนด์นี้เป็นรถที่ได้รับมาตรฐานและมีคุณภาพ รวมถึงประสิทธิภาพในระดับเวิลด์คลาส ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยบริษัทยานยนต์ในประเทศเยอรมนี โดย Mercedes Benz นั้นเป็นรถยนต์ในเครือ Daimler ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2469 โดยนายก็อตต์ ลีบ เดทเลอร์ และคาร์ล เบนซ์ โดยปัจจุบันเบนซ์มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองชตุทท์การ์ท ประเทศเยอรมนีนั่นเอง

วันนี้เราได้นำรุ่นรถสปอร์ตของ Mercedes Benz ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ใฝ่ฝันของสาวกมอเตอร์สปอร์ตทั้งหลายมาแนะนำกัน จะมีรุ่นไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย

  • MercedesBenz SLS AMG เป็นรถยนต์นั่งประเภทหรูหราสมรรถนะสูง ออกแบบมาในรูปแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง เครื่องยนต์หน้าลำขับเคลื่อนสองล้อท้าย พร้อมเพลาส่งกำลัง เครื่องยนต์หน้าลำขับเคลื่อนทุกล้อ รถยนต์สปอร์ตจากเบนซ์รุ่นนี้มีเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบประตูลักษณะพิเศษที่เรียกว่า Gull-wing doors หรือประตูปีกนางนวล จึงทำให้รถสปอร์ตรุ่นนี้มีความสวยงาม โดดเด่น สร้างความแตกต่างอย่างเป็นเอกลักษณ์
  • MercedesBenz SLK Class เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูงแบบโรดสเตอร์สปอร์ต เปิดประทุน รูปตัวถังเป็นแบบ 2 ประตูคูเป้ และ 2 ประตูโรดสเตอร์ เครื่องยนต์หน้าลำขับเคลื่อนสองล้อท้าย ปัจจุบันรถยนต์ในซีรีย์นี้ได้มีการผลิตออกมาจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น R 170, R171 และ รุ่นล่าสุดคือ R172
  • MercedesBenz SLR Mclaren เป็นรถยนต์นั่งประเภทหรูหราสมรรถนะสูง ที่เริ่มผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2003 เป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาในรูปแบบ 2 ประตู คูเป้, 2 ประตูโรดสเตอร์ และแบบ 2 door สปีดเตอร์ เครื่องยนต์เป็นแบบหน้าลำขับเคลื่อน 2 ล้อท้าย โดยรถยนต์รุ่นนี้ของเบนซ์เป็นการร่วมกันออกแบบผลิตร่วมกันกับรถยี่ห้อ Mclaren ซูเปอร์คาร์จากประเทศอังกฤษ ซึ่ง Mercedes Benz เข้าไปร่วมถือหุ้นอยู่ 40% โดยเจ้ารถสปอร์ตรุ่นนี้สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดได้ถึง 334 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
  • MercedesBenz SLClass เป็นรถยนต์นั่งประเภทหรูหราสมรรถนะสูง แบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ซึ่งคำว่า SL นั้นย่อมาจากคำว่า Sport Leicht ที่แปลว่าน้ำหนักเบานั่นเอง รวมถึงรถยนต์ในรุ่นนี้ก็ได้นำนวัตกรรมประตูปีกนกนางนวลมาใช้เช่นกัน

แน่นอนว่าราคาของรถยนต์หรูอย่างเบนซ์สปอร์ตนั้น เริ่มต้นอยู่ที่หลัก 10 ล้านบาท ซึ่งหากใครมุ่งมั่นที่จะเป็นเจ้าของเจ้ารถสปอร์สักครั้งในชีวิตแล้วละก็ ก็ต้องมุ่งมั่นตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงินกันต่อไป และสำหรับคนที่ต้องการติดตามข่าวสารในวงการมอเตอร์สปอร์ต Autosport911 เป็นเว็บไซต์ที่ได้รวบรวมเอาข่าวคราวในวงการมาเสิร์ฟให้คุณแบบส่งตรงถึงบ้านแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป