หากเอ่ยถึงนักแข่งรถที่เป็นตำนานของโลก ที่พูดชื่อขึ้นมาใครต่อใครก็ต้องรู้จัก หนึ่งในชื่อนั้นต้องมีชื่อของชูมี หรือมิคาเอล ชูมัคเกอร์อย่างแน่นอน เส้นทางการเป็นนักแข่งรถของเขาแม้ไม่ได้เริ่มต้นด้วยกลีบกุหลาบแต่ทว่าใช้ความพยายามอย่างน่าดู แม้ปัจจุบันเขาจะยังป่วยอยู่ คนทั่วโลกก็ยังคงเป็นห่วงเขาและจดจำเขาไว้ในตำนานนักแข่งรถ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับมิคาเอล ชูมัคเกอร์ให้มากขึ้น
มิคาเอล ชูมัคเกอร์กับเส้นทางนักแข่งรถที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
นักแข่งรถในตำนานคนนี้ เริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักแข่งรถในวัย 12 ปี เริ่มจากการเข้าร่วมการแข่งรถคาร์ต แต่ในวัย 12 ปีนั้นเขาไม่มีใบขับขี่ แต่ด้วยความพยายาม ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค ก็เลยทำให้เขาไปต่อใบขับขี่ที่ประเทศลักแซมเบิร์ก และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ ปีถัดมาเขาสามารถเป็นแชมป์รถคาร์ตได้ ด้วยความสนใจในเรื่องรถเป็นพิเศษ เขาจึงได้เดินไปตามเส้นทางการแข่งรถ และได้เป็นแชมป์ของรถ F3 เมื่อปีคริสตศักราช 1990 จนกระทั่งฝึกฝนฝีมือจนกลายเป็นนักแข่งรถชื่อดังก้องโลกและเป็นตำนานอย่างทุกวันนี้
อุบัติเหตุที่พลิกผันชีวิต
ในชีวิตของมิคาเอล ชูมัคเกอร์นั้นเจออุบัติเหตุสองครั้งใหญ่ ๆ และสองครั้งนั้นก็ทำให้ชีวิตของเขาพลิกผันไปมากเลยทีเดียว อุบัติเหตุแรกเกิดในระหว่างการแข่งขันที่ประเทศอังกฤษ โดยรถของเขาได้พลิกคว่ำ ทำให้เขาบาดเจ็บจากกระดูกหน้าแข้งและบริเวณน่องหัก ต้องพักฟื้นร่างกายอย่างยาวนาน จนในที่สุดเขาตัดสินใจเลิกแข่งขันไปในปี 2006 ทว่าคงเป็นมนต์เสน่ห์ของรถแข่งที่ทำให้เขาตัดไม่ขาด ในปี 2010 เขาตัดสินใจกลับมาเข้าสังกัดนักแข่งรถของเมอร์เซเดสอีกครั้ง แต่ทว่าการกลับมาครั้งนี้เขาสร้างผลงานได้ไม่ดี สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจออกจากวงการแบบถาวร
อุบัติเหตุครั้งที่สองที่พลิกชีวิตเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือก็คืออุบัติเหตุจากการเล่นสกี จนศีรษะของเขาบาดเจ็บเพราะกระแทกโขดหิน จากอุบัติเหตุครั้งนี้ได้ทำให้เขากลายเป็นเจ้าชายนิทรา ที่น่าแปลกใจก็คือครอบครัวของเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะปิดข่าวว่าอาการของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ทั้ง ๆ ที่ VWIN และคนทั้งโลกยังรักและเอาใจช่วยเขา ปรารถนาจะเห็นเขากลับมาใช้ชีวิตดังเดิมอีกครั้ง
สำหรับแฟนรถแข่งคนใดที่ยังคิดถึงเขาอยู่ และอยากจะรู้เรื่องราวของชีวิตเขาให้มากกว่านี้ ปลายปี 2019 มีภาพยนตร์สารคดีของเขาที่ชื่อว่า Schumacher แน่นอนว่าหากใครยังคิดถึง ก็จะได้ชมชีวิตเขาได้อย่างเต็มอิ่มและจุใจเลยทีเดียว แม้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเห็นเขากลับมาโลดแล่นบนสนามรถแข่งอีกครั้งหรือไม่ แต่สิ่งที่คนทั้งโลกทำได้ดีที่สุดก็คือ เอาใจช่วยให้ราชานักแข่งรถคนนี้กลับมามีสุขภาพที่ดีดังเดิม