Ford GT และ Ford Mustang GT ความสำเร็จของรถยนต์สปอร์ตจากค่ายอเมริกัน

อีกหนึ่งค่ายรถจากอเมริกันที่ไม่ทำให้วงการรถสปอร์ตผิดหวังก็คือ ค่ายฟอร์ด กับรถทั้ง 2 รุ่นคือ Ford GT และ Ford Mustang GT ที่รถทั้ง 2 รุ่นได้รับการยอมรับในเรื่องของสมรรถนะและความสามารถ แต่ก็ยังมีหลายคนที่กำลังสงสัยว่ารถทั้ง 2 รุ่นนี้มีความแตกต่างกันยังไง เพราะดูเหมือนจะใกล้เคียงกันเหลือเกิน

Ford GT การกลับมาอีกครั้งของรถสปอร์ตจากค่ายฟอร์ด

ในปี 1966 ฟอร์ดได้มีการเริ่มผลิตรถสปอร์ตรุ่นแรกที่ชื่อว่า GT40 ขึ้นเพื่อใช้ในการแข่งขันซึ่งในครั้งนั้นซึ่งยังคงเป็นรองค่ายรถสัญชาติอิตาลี ซึ่งก็คือเฟอร์รารี่ ต่อมา ฟอร์ด GT ก็ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาช่วงสั้น ๆ ในปี 2004 กับรถซูเปอร์คาร์ขนาดกลาง จนต่อมาในปี 2016 ค่ายฟอร์ดก็ได้ปลุกสมรรถนะและความสามารถกลับของรถสปอร์ตขึ้นมาอีกครั้งเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการผลิตรถสปอร์ตครั้งแรก

ปัจจุบัน Ford GT เป็นการพัฒนาโครงสร้างและสมรรถนะทั้งภายในและภายนอก โดยโครงสร้างภายนอกและแผงตัวถังทำมาจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ปีกหลังสามารถปรับให้สูงขึ้นและต่ำลงได้เพื่อช่วยหยุดรถ เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร กำลัง 647 แรงม้าพร้อมแรงบิด 550 ปอนด์-ฟุต ทำให้รถสปอร์ตคันนี้สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 216 ไมล์ต่อชั่วโมง ถึงแม้เสียงจะไม่กระหึ่มและมีเสน่ห์เท่าที่ควรก็ตาม

อัตราการเร่งที่รวดเร็วทำให้  Ford GT เป็นรถสปอร์ตที่สามารถตอบสนองการเร่งของผู้ขับขี่ได้อย่างรวดเร็วและฉับพลันอย่างหาได้ยากในรถซูเปอร์คาร์รุ่นอื่น ๆ อีกทั้งผู้ขับขี่ยังสามารถตั้งค่าโหมดเพื่อให้สามารถควบคุมการขับขี่ให้สะดวกสบายมากขึ้นได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าการตกแต่งภายในจะไม่ได้หรูหราเหมือนรถสปอร์ตรุ่นอื่น ๆ ก็ตาม

Ford Mustang GT

สำหรับฟอร์ดมัสแตง เป็นการปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพจากสิ่งที่ Ford GT ขาด ได้แก่ เสียงของระบบเกียร์ที่ผู้ขับขี่หลายคนอยากให้ GT มี ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเริ่มต้นตั้งแต่ในอดีต Ford Mustang GT 1ได้เริ่มต้นผลิตมาตั้งแต่ปี 1965 โดยได้เพิ่มระบบดิสก์เบรก ไฟฝั่งคนขับ และรูปแบบลายเส้นรอบคันสไตล์รถสปอร์ต ต่อมาได้มีการพัฒนาสมรรถนะในเรื่องของขนาดแรงม้า จนมาถึงปัจจุบันฟอร์ดมัสแตงได้ถูกปรับปรุงให้กลายเป็นรถสปอร์ตที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยม ด้วยเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร V8 กำลังแรง 460 แรงม้า แรงบิด 420 ปอนด์-ฟุต พร้อมเกียร์ manual หรือเกียร์อัตโนมัติระบบใหม่แบบ 10 สปีด

ฟอร์ดมัสแตงมีข้อดีหลายข้อที่ทำให้เหนือกว่า Ford GT ได้แก่ ระบบควบคุม Smokey-burnout แบบอัตโนมัติ, ระบบการล็อคอิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกปลอดภัย อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบในเรื่องของความสะดวกสบาย สามารถขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้นแบบที่สามารถใช้เป็นรถแบบขับประจำวันได้เลยทีเดียว

Ford เป็นอีกหนึ่งค่ายรถที่น่าจับตามองทั้งในสนามแข่งและในตลาดรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ไม่แพ้ค่ายรถจากในยุโรป สำหรับในอนาคตทั้ง Ford GT และ Ford Mustang GT จะพัฒนาก้าวหน้าและตอบโจทย์ขวัญใจรถสปอร์ตได้อีกมากน้อยแค่ไหน แฟน ๆ ค่ายฟอร์ดก็คงต้องติดตามกันต่อไป