CRF 450 Rally เอนดูโร่ตัวแกร่งของฮอนด้า ผงาดใน Dakar 2020

ฮอนด้าเข้าร่วมในการแข่งขันแรลลี่ดาก้าร์ครั้งแรกในปี 1981 และคว้าแชมป์สี่สมัยซ้อนในปี 86 – 89 ในครั้งนั้นฮอนด้าครองบัลลังค์ความยิ่งใหญ่ และสร้างฐานะให้เหล่านักพันสายความเร็วด้วยรถ Honda Africa twin แต่หลังจากนั้นทีมฮอนด้าถอนตัวไปหลายปี ปล่อยให้ KTM ครองบัลลังก์แชมป์ได้ถึง 18 สมัยในรอบ 31 จนในปี 2013 ฮอนด้ากลับมาอีกครั้งภายใต้ชื่อทีม “มอนสเตอร์ เอนเนอร์จี้ ฮอนด้า” ด้วยรถ Honda CRF 450 Rally และสามารถทำผลงานได้ไม่เลว สามารถคว้ารองแชมป์ได้ในปี 2015 และ 2018 จนในปี 2020 ฮอนด้ากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์ครั้งแรกหลังจากปล่อยให้แฟน ๆ รอคอยมาถึง 31 ปี

7839 กิโลเมตร ท่ามกลางทะเลทรายหฤโหด

ดาก้าร์ 2020 เปลี่ยนจากสนามแข่งที่อเมริกาใต้มาประลองความมันกันที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย เส้นทางผ่าทะเลทรายเวิ้งว้างและร้อนระอุ และอุปสรรคสุดโหด ซึ่งใคร ๆ ก็รู้ว่าแรลลี่ดาก้าร์โหดแค่ไหน เกือบทุกครั้งจะต้องมีนักแข่งที่แข่งไม่จบ ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อในสเตจที่ 7 เปาโล กอนคาลเวส นักบิดชาวโปรตุเกสวัย 40 ปีจากทีมฮีโร่ ทีมแข่งสัญชาติอินเดีย ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเสียชีวิต ทำให้การแข่งขันในสเตจที่ 8 ถูกยกเลิกไปต้องมาแข่งกันต่อใน 4 สเตจสุดท้าย

ริกกี้ บราเบ็ค นักแข่งชาวอเมริกัน จากทีมฮอนด้าสามารถเอาชนะการแข่งได้ ด้วยรถ Honda CRF 450 Rally ด้วยเวลา 40 ชั่วโมง 2.36 นาที  ซึ่งในครั้งนี้เพื่อนร่วมทีมฮอนด้าอีกสองคน โฮเซ่ อินาซิโอ้ คอร์เนโฮ่ จบอันดับ 4 และ โจอัน บาร์เรต้า จบอันดับ 7 ทำให้ทีมฮอนด้ามีนักแข่งจบใน 10 อันดับแรกถึง 3 คน นับเป็นการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากถูกค่อนขอดมาหลายปีว่าสายการผลิตรถโรงงานจากฮอนด้าตกต่ำลง และอาจจะไม่มีวันผลิตรถที่เหนือเจ้าอื่นได้อีกแล้ว ซึ่งฮอนด้าก็ใช้เวลาพัฒนาอยู่เกือบสามสิบปีกว่าจะตัดสันใจ เข็นเจ้ารถ CRF 450 ออกมาและปล่อยลงมาวาดลวดลายในแรลลี่ดาก้าร์อีกครั้ง จนคว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด

ทำเนียบผู้ชนะในครั้งนี้ ริกกี้ บราเบ็ค นักบิดชาวสหรัฐอเมริกา สังกัด มอนสเตอร์ เอนเนอร์จี้ ฮอนด้า ทีม ทำเวลา 40 ชั่วโมง 2.36 นาที ปาโบล ควินตานิลลา นักบิดชาวชิลี สังกัด ฮัสควาน่า แฟ็คตอรี่ เรซซิ่ง ทีม ทำเวลาห่างผู้ชนะ 16.26 นาที โทบี้ ไพรซ์ นักบิดจากออสเตรเลีย สังกัด เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี่ เรซซิ่ง ทีม ทำเวลาห่างผู้ชนะ 24.06 นาที

จะครองความยิ่งใหญ่ไปอีกหลายปี                

แม้การแข่งจะพึ่งพาประสบการณ์และความอึดของนักแข่ง แต่สำหรับแรลลี่ดาการ์ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสมรรถนะของรถเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และฮอนด้าเองก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่ารถจากโรงงานของฮอนด้าตัวใหม่อย่าง CRF 450 ก็สามารถกลบเสียงวิจารณ์มาตั้งแต่ออกใหม่ ๆ ว่าจะสู้คู่แข่งอย่าง KTM BMW หรือแม้กระทั้งเพื่อนร่วมชาติอย่าง YAMAHA ได้หรือไม่ 7839 กิโลเมตร 12 สเตจใน 3 วัน เป็นคำตอบได้อย่างดี