Jaguar I-PACE สปอร์ตหรูดูสง่างาม นวัตกรรมล้ำ ๆ ที่สะกดทุกสายตา

สำหรับแบรนด์รถสปอร์ตสุดหรูชั้นแนวหน้าอย่าง Jaguar นั้นถ้ามีการปล่อยรถรุ่นใหม่ออกมาต้องบอกเลยว่าถูกใจคนชอบรถหรูทุกคนแน่นอน อย่างล่าสุดทางจากัวร์ขออินเทรนด์กับกระแสรักษ์โลก จึงของัดเอาความหรูดูสปอร์ตไม่เหมือนใครมาผสานกับแนวคิดรักษ์โลก จนได้นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ลงตัว อย่าง Jaguar I-PACE ที่บอกได้คำเดียวว่าแค่เห็นไกล ๆ ก็สะกดสายตาคุณได้อย่างไม่ยากเย็น

ภายนอกโฉบเฉี่ยวและทรงพลัง

Jaguar I-PACE เป็นสปอร์ต SUV แบบ 5 ที่นั่งใช้งานได้อเนกประสงค์ ที่บอกได้คำเดียวว่าแค่เห็นก็จะอดมองไม่ได้ โดยเดิมทีแล้ว Jaguar มีดีไซน์รถที่หรูหราสวยงามอยู่เสมออยู่แล้ว ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในท้องตลาดปัจจุบันนั้นเรื่องการดีไซน์อาจจะไม่ได้หวือหวาสักเท่าไหร่ เพราะเน้นในเรื่องการใช้งานเสียมากกว่า แต่นี่จึงต้องบอกว่าเป็นนวัตกรรมใหม่จริง ๆ เพราะ Jaguar เอาดีไซน์ที่หรูหราเป็นเอกลักษณ์ของตนเองมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้รูปลักษณ์ของ Jaguar I-PACE ดูโดดเด่นมีความโฉบเฉี่ยวขณะเดียวกันก็ดูแกร่งทรงพลังในตัวเองสมความเป็นรถสปอร์ต ถ้าวัดความยาวของตัวรถรุ่นนี้จะอยู่ที่ 4,682 มิลลิเมตร ในส่วนของฐานล้อของรถความยาวจะอยู่ที่ 2,990 มิลลิเมตร สัดส่วนดูลงตัวทีเดียว ในส่วนอื่น ๆ หากมองรวม ๆ ก็ต้องบอกว่าดูดีทุกจุด เช่นกระจังหน้า และในส่วนช่องกระจกออกแบบมาได้ลงตัวดูสง่าเอามาก ๆ เชื่อว่าใครเห็นก็ต้องชอบ

ภายในจัดเต็มด้วยมาตรฐานใหม่ที่น่าสนใจเพียบ

Jaguar I-PACE มาด้วยมาตรฐานใหม่ในขุมพลังสุดแรงและฟังก์ชันล้ำ ๆ เพียบ อย่างที่กล่าวไปรุ่นนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า เมื่อชาร์จไฟจนเต็ม 1 ครั้ง ก็จะสามารถขับขี่ได้ในระยะทาง 470 กิโลเมตร กำลังของเครื่องยนต์อยู่ที่ 400 แรงม้า แรงบิดทำได้สูงไม่เบาอยู่ที่ 696 นิวตันเมตร คือ คุณสามารถทำอัตราเร่งตั้งแต่ 0 – 100 ได้ภายใน 4 วินาทีกว่า ๆ เท่านั้น ตอบโจทย์การขับขี่ยุคใหม่ที่ต้องการความแรงและประหยัดพลังงาน ซึ่งทาง Jaguar ได้ทำรีเสิร์จตลาดได้ดีทำให้เข้าใจความต้องการของคนยุคใหม่มักจะอินไปกับอะไรที่ง่าย เร็ว สะดวก แต่ดี เรียบแต่หรู ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่มักจะต้องการอะไรที่ง่ายและลงตัว กิจกรรมความบันเทิงก็เลือกที่จะเข้ามาแพลตฟอร์มออนไลน์กันเกือบจะ 100% ซึ่งเราจะเห็นกันได้จากการรับชมความบันเทิงที่เน้นไปที่ช่องทางออนไลน์ การเติบโตของวงการพนันออนไลน์ก็สะท้อนเรื่องนี้ได้ดี อย่างเว็บไซต์พนันกีฬาออนไลน์ VWIN เป็นหนึ่งกระบอกเสียงว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มออนไลน์กันขนาดไหน จึงไม่แปลกที่สิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์จะต้องออกมาให้ใช้ง่ายดูดีและขณะเดียวกันก็ต้องสอดรับกับกระแสสังคมไปด้วยในเวลาเดียวกัน และแน่นอนรถยนต์ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วย Jaguar จึงให้มีการออกแบบภายใน I-PACE มาเป็นพิเศษห้องโดยสารกว้าง เหยียดแข่งเหยียดขาได้เต็มที่ และมีพื้นที่จัดเต็มสำหรับ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตเอาใจไลฟ์สไตล์ออนไลน์ของคนรุ่นใหม่ด้วย

Jaguar I-PACE แม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้เสียท่วงท่ารูปลักษณ์ของรถสปอร์ตไปแต่อย่างใด สมรรถนะการขับขี่ทำได้ดี การชาร์จแบตเตอรี่ก็ได้มาตรฐานสามารถชาร์จ 0 – 80% ได้ในเวลาประมาณ 30 – 40 นาทีเท่านั้น เทคโนโลยีภายในก็มาแบบจัดเต็มเพื่อการขับขี่ที่สะดวกและปลอดภัย เรียกว่ารุ่นนี้ได้ใจคนชอบรถสปอร์ตอเนกประสงค์แน่นอน แต่ขึ้นชื่อว่า Jaguar ก็ต้องแรงเป็นธรรมดา Jaguar I-PACE มีให้เลือก 3 รุ่น ราคาก็ตั้งแต่ 5.5 – 7 ล้านใครสู้ราคาได้ก็ลองไปสัมผัสกันดู

รถสปอร์ตรุ่นใหม่ที่กำลังจะมาในปี 2020

ข้ามช็อตกันไปเลยสำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต เพราะวันนี้เราได้นำเอารถสปอร์ตจากค่ายต่าง ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2020 มาฝากกัน

                โมเดลใหม่ทั้งหมดที่เรานำมาแนะนำในวันนี้อาจจะเป็นรุ่นที่ยังไม่คุ้นหูเท่าไหร่นักเนื่องจากเป็นโมเดลที่ยังไม่เคยมีการเปิดตัวมาก่อน จะมีรถรุ่นใหม่จากค่ายไหนจากนั้น เราไปดูกันเลย

  • 2020 Tesla Roadster รถไฟฟ้าสปอร์ตแบบคูเป้ที่จะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึงที่ 250 ไมล์ต่อชั่วโมงพร้อมระยะทางการขับขี่สูงสุด 620 ไมล์สำหรับราคาเริ่มต้นที่200,000ดอลลาร์สหรัฐ เป็นการออกแบบซูเปอร์คาร์ให้เหมาะกับการใช้สอยในชีวิตประจำวันด้วยที่นั่ง 4 ที่นั่งแตกต่างจากรถสปอร์ตโดยทั่วไปที่ส่วนใหญ่มีเพียง 2 ที่นั่งเท่านั้น
  • 2020 Toyota Supra ในปี 2020 นี้โตโยต้าจะได้นำโมเดลของรถสปอร์ตรุ่น Supra มาปัดฝุ่นใหม่ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพอีกครั้งด้วยความร่วมมือกับค่าย BMW ในการใส่เครื่องยนต์เทอร์โบอินไลน์ 3.0 ลิตรของ BMW ซึ่งให้กำลัง 335 แรงม้าและแรงบิด 365 ปอนด์ พร้อมเกียร์ระบบอัตโนมัติ 8 สปีด อีกทั้งยังมีการตกแต่งภายในที่คล้ายคลึงกับสไตล์ของ BMW ตลอดไปจนถึงการใช้ตัวควบคุม iDrive หน้าจอสัมผัสส่วนกลางและมาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถแสดงข้อมูลการขับขี่ได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ
  • 2020 Ford Mustang Shelby GT500 เป็นรถสปอร์ตที่ค่ายฟอร์ดเคลมว่าจะเป็นรถที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังมากที่ฟอร์ดเคยสร้างมา  ด้วยแรงม้าที่มากกว่า 700 แรงม้า โดดเด่นด้วยการออกแบบกระจังหน้าพร้อมโลโก้  Shelby Cobra ขนาดใหญ่ที่สามารถดึงดูดสายตาผู้ที่พบเห็นได้ในทันที
  • 2020 BMW M340i  เป็นรถสปอร์ตซีรีย์ 3 จาก BMW ที่ทรงพลังที่สุดที่เคยมีมาไม่รวมถึงรถรุ่น M3     ที่กำลังจะออกใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ด้วยเครื่องเทอร์โบชาร์จอินไลน์ 6  ที่ให้กำลัง 382 แรงม้าและแรงบิด 369 ปอนด์ต่อฟุต ให้กำลังแรงเพิ่มขึ้นเกือบ 130 แรงม้าเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ BMW Series 3 รุ่นก่อนหน้า มาพร้อมการออกแบบดีไซน์ทั้งภายในและภายนอกที่หรูหรา พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 ระดับ
  • 2020 Lexus LC Convertible รถยนต์Lexus สปอร์ตแบบเปิดประทุน ที่ออกแบบมาคล้ายกับรถเก๋งแต่ต่างกันตรงที่หลังคาที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ว่าจะต้องการใช้หลังคาที่ทำจากผ้าแบบอ่อนหรือต้องการหลังคาแบบแข็ง มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตรขนาด 471 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ให้เสียงที่นุ่มนวลเมื่อทำการเร่งเครื่องแบบกะทันหัน ภายในเป็นการตกแต่งในระดับพรีเมียมที่มีความหรูหราไม่แพ้กับ Porsche 911, Mercedes-Benz GT และ Audi R8 ห้องคนขับหุ้มด้วยวัสดุคุณภาพสูงพร้อมลวดลายแกะสลักอยู่บนอะลูมิเนียมและหนังกลับเกรดพรีเมียม สำหรับราคาเริ่มต้นที่ $ 92,300

ไม่เพียงรถสปอร์ตรุ่นใหม่ 5 รุ่นที่เรามาฝากข้างต้นเท่านั้น แต่ยังมีรถอีกหลายรุ่นที่กำลังจะเปิดตัว

ในปี 2020 ซึ่งเราจะได้นำเราสเปคและรายละเอียดมาให้คุณทราบกันในตอนต่อ ๆ ไป  

Honda NSX 2019 Super Car ที่มาพร้อมระบบ Hybrid

Honda อีกหนึ่งค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นที่ไม่น้อยหน้าค่ายจากยุโรปและอเมริการวมถึงในเรื่องของรถสปอร์ต ซึ่งในปี 2019 นี้ Honda ก็ได้ทำการอัพเกรดรถยนต์รุ่น NSX เพื่อให้ได้สมรรถนะที่ทั้งเร็วและแรงขึ้น อีกทั้งยังเป็นรถสปอร์ตที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริด จะน่าสนใจแค่ไหน เราไปดูรีวิวของรถรุ่นนี้กันเลย

เทคโนโลยีไฮบริด

                Honda NSX 2019 เป็น Supercar ที่วิศวกรของค่ายฮอนด้าใช้เวลาคิดค้นและทดสอบเป็นระยะเวลายาวนานเพื่อให้ได้เทคโนโลยีของเครื่องยนต์แบบไฮบริดที่มีความแรงพร้อมการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ Hand Built Engine เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 Twin Turbo ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ตั้งอยู่ตรงกลางกับตัวถังอะลูมิเนียม ช่วยให้ประหยัดพื้นที่และช่วยควบคุมแรงดันเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ส่งพลังงาน        ผ่านคลัตช์คู่ 9 สปีดเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองต่ออัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็ว

                ส่วนของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจะมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าทางด้านหลังผสานกับชุดไฟฟ้าแบบคู่ทางด้านหน้า ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสถึงความสปอร์ตของซูเปอร์คาร์ได้ผ่านทางร่างกายระหว่างการควบคุมรถไม่ว่าจะเป็นขณะเบรคหรือเลี้ยว อีกทั้งยังช่วยให้รถประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดีในระหว่างการขับขี่ปกติบนท้องถนน อีกทั้งมีโหมดการขับขี่ ขี่แบบไดนามิกให้เลือก 4 โหมด การเปลี่ยนเกียร์สามารถทำได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อการขับขี่ที่ราบรื่น 

รูปลักษณ์ภายนอกและภายใน

                สีภายนอกเป็นการใช้ผิวเคลือบที่มีความมันวาวสูงเพื่อเน้นความสวยงามของรูปลักษณ์การดีไซน์ โครงถังและตัวถังผ่านกระบวนจุ่มสารพิเศษเพื่อลดการกัดกร่อนก่อนทำการลงสี ชุดแต่งทั้งสปอยเลอร์หน้า สปอยเลอร์หลัง กระโปรงล่างและท่อกระจายไอเสียด้านหลังทำจากคาร์บอนไฟเยอร์ที่มีความแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา

                การออกแบบภายนอกภายในของ Honda NSX 2019 ออกแบบมาให้เชื่อมต่อกันแบบสมบูรณ์ทั้งที่นั่งฝั่งประตูและคอนโซลกลางเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้นั่งมีความปลอดภัย โดยเฉพาะที่นั่งของคนขับที่ออกแบบให้มีความสะดวกสบายเหมาะกับการขับขี่ในทุกวันและรองรับสรีระทางด้านกายภาพได้อย่างลงตัว     า

การตกแต่งภายในออกแบบให้มีสไตล์เรียบหรู พวงมาลัยหุ้มหนังออกแบบมาให้มีความเรียบเนียน       ให้สัมผัสและความรู้สึกเป็นธรรมชาติในระหว่างควบคุมการขับขี่ เบาะหนังมีความหรูหราผสมผสานระหว่างความเป็นสปอร์ตพร้อมกับประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการใช้งาน พร้อมการออกแบบสลักลายที่มีความสวยงามอย่างเป็นเอกลักษณ์และมีความเป็นมืออาชีพ รองรับการขับขี่ได้ทุกรูปแบบ สามารถเลือกสีของตัวถังภายนอกและเครื่องหนังภายในให้เป็นสีเดียวกันหรือเลือกใช้สีดำได้

                Honda NSX 2019 ถือเป็นรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์จากค่ายฮอนด้าที่น่าจับตามอง ส่วนสำหรับราคาในไทยนั้นอยู่ที่ประมาณ 16 ล้านบาท ใครสนใจก็ลองหาโชว์รูมไปทดสอบความแรงกันดู

เปิดตัว Aston Martin Vantage 2019

Aston Martin เปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดกับ Aston Martin Vantage 2019 พร้อมดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวคงเอกลักษณ์ของการเป็นรถหรูระดับโลก ส่วนฟังก์ชั่นทั้งภายในและภายนอกจะมีความพิเศษอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลย

สเปคโดยรวม

                Aston Martin Vantage 2019 รุ่นใหม่มาพร้อมการออกแบบดีไซน์ที่สวยงามอย่างยอดเยี่ยมและแตกต่างไปจากรูปแบบของรถยนต์สปอร์ตสัญชาติอังกฤษไปโดยสิ้นเชิง เครื่องยนต์ Twin Turbo ขนาด 4 ลิตร V8 กำลัง 503 แรงม้า ระบบอัตโนมัติ 8 สปีดแบบเกียร์เดียว แรงบิด 505 ปอนด์ต่อฟุต อีกทั้งยังมีรุ่นเกียร์ Manual 7 สปีดที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ การควบคุมการทำงานของรถทั้งหมดเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ วัสดุทั้งภายในและภายนอกมีคุณภาพสูงอีกทั้งลูกค้ายังสามารถออกแบบพร้อมตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามที่ต้องการ พร้อมรายการของอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ อีกมากมาย

ความโดดเด่นและสมรรถนะของเครื่องยนต์

                Aston Martin Vantage 2019 ได้ทำงานร่วมกับ Mercedes Benz เพื่อให้ได้เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะ V8 เทอร์โบคู่ที่ช่วยให้รถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 3.6 วินาที และสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 313 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คือเรื่องที่น่าทึ่ง สร้างความแข็งแกร่งพร้อมความอัตโนมัติที่ทันสมัย มีชุดเฟืองท้ายที่สามารถปรับได้ มาพร้อมกับระบบควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ โหมด Sport, Sport Plus และ Track tailor

การตกแต่งภายในและภายนอก

                เป็นการผสมผสานการออกแบบอย่างลงตัวด้วยเทคโนโลยีแบบสปอร์ตที่มีความทันสมัยร่วมกับ Vibrant Lime Essence อัดพลังงานพิเศษเพื่อช่วยให้ตัวรถมีความเงางามพร้อมกับความเบาของคาร์บอนไฟเบอร์ สี ภายนอกที่ใช้ในการออกแบบรถรุ่นนี้เป็นการใช้สีถึง 41 เฉด โดยผู้ซื้อสามารถออกแบบสีรถที่ตัวเองต้องการได้ถึง 16 แบบ โดยเน้นโทนสีที่มีความสดใส สะดุดตา เพื่อเจาะตลาดของคนรักรถสปอร์ตรุ่นใหม่ 

 การตกแต่งภายใน

                Aston Martin Vantage 2019 เป็นรถสปอร์ต 5 ประตูด้านในประกอบด้วยคอนโซลกลาง เครื่องเสียงและวิทยุพร้อมปุ่ม HVAC และวัสดุเกรดระดับพรีเมียมไม่ว่าจะเป็นอะลูมิเนียม ปุ่มแก้ว รวมถึงหนังคุณภาพสูงที่เรียกได้ว่าดีที่สุดจาก Bridge of Weir พร้อมระบบสั่งการที่ชาญฉลาดไม่แพ้กับรถสปอร์ตจากค่าย Mercedes Benz ไม่ว่าจะเป็นระบบ Android Play และ Apple Car Play รวมถึงระบบสั่งการอื่น ๆ ภายในรถยังออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานของคนรักเทคโนโลยี อีกทั้งยังสามารถออกแบบเฉดสีสำหรับการตกแต่งภายในด้วยตัวเองได้ถึง 10 เฉดสีและสามารถเลือกสีของเข็มขัดนิรภัยได้ถึง 6 แบบ

                ราคาในเมืองไทยสำหรับรถรุ่นนี้อยู่ที่ 16.99 ล้านบาท ถือว่าเป็นราคาเปิดตัวที่แพงกว่ารถสปอร์ตของ Aston Martin รุ่นก่อน ๆ  แฟนรถสปอร์ตคนใดสนใจก็ลองไปชมหรือสอบถามรายละเอียดกันได้ที่โชวรูมชั้นนำทั่วประเทศ

5 รถสปอร์ตรุ่นใหม่ที่คุณก็สามารถเป็นเจ้าของได้

แฟนรถสปอร์ตหรือคนที่มีความฝันอยากจะเป็นเจ้าของรถสปอร์ตสักคันในช่วงชีวิตนี้ ความฝันเหล่านั้นจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะวันนี้เราได้นำเอารถสปอร์ตรุ่นใหม่ 5 รุ่น ในปี 2018-2019 ที่น่าสนใจซึ่งคุณก็สามารถเป็นเจ้าของได้มาฝากกัน

  1. Hyundai Veloster รถยนต์ VelosterGeneration ที่ 2 จากค่ายฮุนไดที่ได้มีการยกระดับขึ้นสู่ความเป็นพรีเมียมกว่ารุนแรก ด้วยเครื่องยนต์เบส 2.0 ขนาด 2.0 ลิตร 4 อินไลน์ 147 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้าแบบ Manual 6 สปีดและแบบอัตโนมัติ 6 สปีด มาพร้อมคลัทช์คู่ 3 สปีด มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ Base, Premium, Turbo R-Spec, Turbo และ Turbo Ultimate ราคาเปิดตัวเริ่มตั้งแต่ 16,750 – 24,900 ดอลล่าร์สหรัฐ
  2. Ford Mustang Coupe รถสปอร์ต 4 สูบเริ่มต้นที่ความแรงตั้งแต่ 300 แรงม้า V6 ไปจนถึง V8 GT350 ที่ความแรงสูงสุด 526 แรงม้า มาพร้อมการขับเคลื่อนล้อหลัง มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ ได้รับการปรับปรุงสมรรถภาพของระบบกันสะเทือน ยางสำหรับหน้าร้อน ระบบเบรคและการเลี้ยว อีกทั้งยังเป็นรถรุ่นที่อยู่ในระดับ 5 ดาวของการจัดอันดับด้านความปลอดภัยอีกด้วย  
  3. Chevrolet Camaro Coupe ออกแบบมาให้เลือกทั้งแบบคูเป้และแบบเปิดประทุน ด้วยเทอร์โบชาร์จที่มีความแรงตั้งแต่ 275 แรงม้าอินไลน์ 4 ไปจนเครื่องยนต์ 650 แรงม้า V8 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเกียร์ธรรมดาให้เลือกตั้งแต่ 6 สปีด 8 สปีด ไปจนถึง 10 สปีด มาพร้อมประสิทธิภาพ การจัดการและการตกแต่งภายในที่ดีเยี่ยม ไม่เพียงเท่านั้น เทคโนโลยีและอุปกรณ์ยังถูกติดตั้งด้วยระบบความปลอดภัยชั้นสูงเพื่อให้เป็นรถสปอร์ตที่เหมาะสำหรับการขับขี่และการใช้งานบนท้องถนน  
  4. Toyota 86 รถยนต์สปอร์ตจากค่ายโตโยต้าที่มาแทนที่รุ่น Scion FR-S มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Boxer ขนาด 2.0 ลิตร มีให้เลือก 2 ขนาดคือรุ่น 156 แรงม้าเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและรุ่น 200 แรงม้าเกียร์ 6 สปีดแบบอัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อนแบบล้อหลังและช่วงล่างแบบสปอร์ต เพื่อการจัดการที่ยอดเยี่ยม ภายในประกอบด้วยหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วและกล้องมองหลัง นอกจากนี้ยังมีระบบพิเศษที่เรียกว่า TRD ที่ช่วยอัพเกรด ประสิทธิภาพ ของผ้าเบรครวมถึงระบบท่อไอเสีย เพื่อเน้นย้ำสมรรถนะของการเป็นรถสปอร์ตได้อย่างยอดเยี่ยม
  5. Subaru BRZ รถสปอร์ตที่ออกแบบมาให้มีลักษณะเฉพาะ มีสเปคให้เลือกตั้งแต่รุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ พร้อมเครื่องยนต์ Boxer ขนาด 2.0 ลิตร 205 แรงม้า แรงบิด 165 ปอนด์ ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 25,495 – 27,645 ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับราคาจำหน่ายในเมืองไทย ใครสนใจรุ่นไหนก็จะต้องติดตามข่าวสารและเช็คราคาที่แน่นอนกันอีกครั้งและที่สำคัญ อย่าลืมเตรียมเงินให้พร้อม รถสปอร์ตในฝันกำลังรอคุณอยู่

Aston Martin เปิดตัวรถรุ่นใหม่ 2019 Aston Martin Valkyrie

ใครที่กำลังสนในข่าวคราวการเปิดตัวของค่ายรถสปอร์ตระดับโลกรุ่นใหม่ รับรองว่าจะไม่ผิดหวังหากคุณติดตามเว็บไซต์ของเรา เพราะวันนี้เราได้นำเอารถรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Aston Martin ที่จะวางจำหน่ายในปี 2019 มาฝากกัน

2019 Aston Martin Valkyrie

2019 Aston Martin Valkyrie จัดเป็นรถสปอร์ตไฮเปอร์คาร์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเครื่องยนต์ V12 ที่จัดเป็นเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงสุดที่สามารถสร้างความตื่นเต้นและเร้าใจให้กับแฟน ๆ รถสปอร์ตได้เป็นอย่างดี

Cosworth บริษัทวิศวกรรมยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้พัฒนาเครื่องยนต์ยืนยันว่าเครื่องยนต์ V12 ของ Valkyrie เป็นเครื่องยนต์ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 1,000 แรงม้าและสามารถทำรอบได้สูงสุดถึง 10,500 รอบต่อนาที ไม่เพียงเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาให้มีศักยภาพเหมือนรถแข่งเท่านั้นรูปแบบการดีไซน์ของรถคันนี้ยังถูกออกแบบมาให้เหมือนกับรถแข่งอีกด้วย พร้อมกับการติดตั้งระบบให้สามารถควบคุมการปล่อยมลพิษตามกฎของ World Master Test

Cosworth ตั้งเป้าไว้ว่าเครื่องยนต์ของรถคันนี้จะสามารถรองรับการใช้งานได้ถึง 100,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับผู้ขับขี่ที่ดูแลรักษารถยนต์คันนี้เป็นประจำ อีกทั้งระบบ Hybrid ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถคันนี้ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ช่วยขับเคลื่อนเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี

การออกแบบภายนอกและภายในรถ

                รูปลักษณ์ของรถรุ่นนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Adrian Newey ผู้ออกแบบรถแข่งที่ทีม RedBull ใช้ในการแข่งขัน Formula 1 ซึ่งเคยคว้าแชมป์มาแล้วหลายสมัย และได้เอาชื่อรถ Valkyrie มาตั้งเป็นชื่อรุ่นของรถยนต์ Aston Martin รุ่นใหม่นี้เช่นเดียวกัน เนื่องจากคุณสมบัติของรถไฮเปอร์คาร์ที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษอีกทั้งยังมีวงจรของเครื่องยนต์ที่มีความเร็วเทียบเท่ากับรถแข่ง F1

รถสปอร์ตที่มีลักษณะภายนอกแข็งแกร่งและแข็งกร้าวคันนี้ดูเหมือนว่าโครงรถจะไม่สามารถปกปิดตัวฐานของรถได้อย่างมิดชิด ท่ออากาศขนาดใหญ่ 2 ท่อที่อยู่ใต้โครงฐานทำหน้าที่ช่วยเพิ่มแรงกดในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงเช่นเดียวกับปีกขนาดเล็กที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถูกติดตั้งไว้ที่กันชนด้านหน้า

การตกแต่งภายในเป็นการออกแบบที่ปราศจากความหรูหราใด ๆ แต่เน้นไปที่การทำให้รถมีน้ำหนักเบาเพื่อช่วยรักษาความเสถียรในการทรงตัวในขณะเข้าโค้งและเพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมันเป็นหลัก แต่สิ่งหนึ่งที่มีความหรูหราอย่างเหนือระดับก็คือจอดิจิตอล 2 จอที่อยู่บริเวณด้านหน้าคนขับ

สำหรับการวางจำหน่ายของ Aston Martin Valkyrie รุ่นปี 2019 นั้น ตอนนี้ได้มีการผลิตรถตัวอย่างสำหรับ Road Going Valkyrie และ Track – Only Valkyrie AMP Pro เพียงแค่ 150 คันเท่านั้น ซึ่ง Aston Martin กล่าวว่าในอนาคตจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นหาก Aston Martin Valkyrie รุ่นปี 2019 ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนเรื่องราคาตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่แน่นอนว่ารถยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ซื้อเฉพาะกลุ่ม Hi End เท่านั้น

BMW 8 series Gran Coupe รถสปอร์ตมาแรงที่น่าจับตามองในปี 2019

หนึ่งในค่ายรถสปอร์ตที่ผู้ขับขี่สามารถซื้อมาใช้ขับบนท้องถนนได้ก็คือ BMW ที่ตอนนี้ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่น่าสนใจสำหรับปีหน้ากันเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจึงได้นำเอารถยนต์สปอร์ตสุดหรู BMW 8 series Gran Coupe รุ่นใหม่ปี 2019 มารีวิวถึงสมรรถนะทั้งภายในและภายนอกให้คนที่กำลังเลือกเล็งอยากได้รถสปอร์ตคันใหม่ได้พิจารณากัน

สเปคและรูปลักษณ์ภายนอก

                BMW 8 series Gran Coupe รุ่นใหม่ปี 2019 ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกเรียบร้อยแล้วที่งานมอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้นที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยในครั้งนี้เราได้เห็นการปรับโฉมครั้งใหม่ของรถรุ่นนี้ด้วยการออกแบบตะแกรงโครเมียมขนาดใหญ่เป็นโครงด้านนอก ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED แบบเพรียวบางที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของ BMW โดยเฉพาะ กันชนด้านล่างออกแบบมาในโมเดล M850i พร้อมระบบทำความเย็นแบบพิเศษที่ส่งตรงไปยังเครื่องยนต์และระบบเบรก

รถยนต์ BMW 8 series Gran Coupe 2019 จะให้คุณเข้าถึงสัมผัสของ BMW Series 8 อย่างแท้จริง ด้วยความยาวของตัวรถถึง 5 เมตร ทำให้ขนาดของประตูหลังค่อนข้างใหญ่ช่วยให้คนนั่งมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยให้สามารถรองรับตัวรถที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ได้ รถคันนี้ยังมีล้ออัลลอยด์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้วด้วย

การตกแต่งภายใน  

                BMW 8 series Gran Coupe ถูกออกแบบมาให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย รวมถึงความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารที่นั่งข้างหลัง รวมถึงขนาดภายในที่ออกแบบให้มีความกว้างขวางรองรับทุกอิริยาบถของผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี ไม่คับแคบเหมือนรถสปอร์ตรุ่นอื่น ๆ พร้อมหน้าต่างบานเล็กด้านข้าง จอควบคุมด้านหน้ามีขนาดใหญ่พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งาน iDrive Control เพื่อให้คนขับสามารถควบคุมการทำงานต่าง ๆ และสามารถมองเห็นสถานะต่าง ๆ ของรถได้  

ศักยภาพที่เหนือกว่า

                ปิดท้ายด้วยเรื่องของสมรรถนะ รถยนต์สปอร์ต BMW 8 series Gran Coupe คันนี้จะมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล พร้อมกระปุกเกียร์แบบอัตโนมัติ 8 สปีด ควบคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและพวงมาลัยแบบ 4 ล้อเช่นเดียวกัน โมเดล M850i ให้ประสิทธิภาพสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตรแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ความแรง 530 แรงม้า เพียงพอที่จะทำให้รถเก๋งขนาดใหญ่สามารถเร่งเครื่องจาก 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาไม่กี่วินาที ด้วยแรงบิด 1,800 รอบต่อนาที และเนื่องจากการโหลดที่ต่ำลงทำให้รถยนต์สปอร์ตของ BMW รุ่นนี้สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ 28.3 mpg

สำหรับราคาของ BMW 8 series Gran Coupe 4 ประตูคันนี้จะอยู่ที่ประมาณ 80,000 ปอนด์ ซึ่งหากจะเปรียบเทียบกับคู่แข่งในแวดวงรถสปอร์ตด้วยกันก็สามารถเทียบได้กับ Porsche Panama และ Mercedes CLS รุ่นไฮเอน สำหรับในประเทศไทย ราคาจะเปิดตัวที่เท่าไหร่ คงจะต้องติดตามกันอีกครั้งในช่วงกลางปี 2019

Ford GT และ Ford Mustang GT ความสำเร็จของรถยนต์สปอร์ตจากค่ายอเมริกัน

อีกหนึ่งค่ายรถจากอเมริกันที่ไม่ทำให้วงการรถสปอร์ตผิดหวังก็คือ ค่ายฟอร์ด กับรถทั้ง 2 รุ่นคือ Ford GT และ Ford Mustang GT ที่รถทั้ง 2 รุ่นได้รับการยอมรับในเรื่องของสมรรถนะและความสามารถ แต่ก็ยังมีหลายคนที่กำลังสงสัยว่ารถทั้ง 2 รุ่นนี้มีความแตกต่างกันยังไง เพราะดูเหมือนจะใกล้เคียงกันเหลือเกิน

Ford GT การกลับมาอีกครั้งของรถสปอร์ตจากค่ายฟอร์ด

ในปี 1966 ฟอร์ดได้มีการเริ่มผลิตรถสปอร์ตรุ่นแรกที่ชื่อว่า GT40 ขึ้นเพื่อใช้ในการแข่งขันซึ่งในครั้งนั้นซึ่งยังคงเป็นรองค่ายรถสัญชาติอิตาลี ซึ่งก็คือเฟอร์รารี่ ต่อมา ฟอร์ด GT ก็ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาช่วงสั้น ๆ ในปี 2004 กับรถซูเปอร์คาร์ขนาดกลาง จนต่อมาในปี 2016 ค่ายฟอร์ดก็ได้ปลุกสมรรถนะและความสามารถกลับของรถสปอร์ตขึ้นมาอีกครั้งเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการผลิตรถสปอร์ตครั้งแรก

ปัจจุบัน Ford GT เป็นการพัฒนาโครงสร้างและสมรรถนะทั้งภายในและภายนอก โดยโครงสร้างภายนอกและแผงตัวถังทำมาจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ปีกหลังสามารถปรับให้สูงขึ้นและต่ำลงได้เพื่อช่วยหยุดรถ เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร กำลัง 647 แรงม้าพร้อมแรงบิด 550 ปอนด์-ฟุต ทำให้รถสปอร์ตคันนี้สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 216 ไมล์ต่อชั่วโมง ถึงแม้เสียงจะไม่กระหึ่มและมีเสน่ห์เท่าที่ควรก็ตาม

อัตราการเร่งที่รวดเร็วทำให้  Ford GT เป็นรถสปอร์ตที่สามารถตอบสนองการเร่งของผู้ขับขี่ได้อย่างรวดเร็วและฉับพลันอย่างหาได้ยากในรถซูเปอร์คาร์รุ่นอื่น ๆ อีกทั้งผู้ขับขี่ยังสามารถตั้งค่าโหมดเพื่อให้สามารถควบคุมการขับขี่ให้สะดวกสบายมากขึ้นได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าการตกแต่งภายในจะไม่ได้หรูหราเหมือนรถสปอร์ตรุ่นอื่น ๆ ก็ตาม

Ford Mustang GT

สำหรับฟอร์ดมัสแตง เป็นการปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพจากสิ่งที่ Ford GT ขาด ได้แก่ เสียงของระบบเกียร์ที่ผู้ขับขี่หลายคนอยากให้ GT มี ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเริ่มต้นตั้งแต่ในอดีต Ford Mustang GT 1ได้เริ่มต้นผลิตมาตั้งแต่ปี 1965 โดยได้เพิ่มระบบดิสก์เบรก ไฟฝั่งคนขับ และรูปแบบลายเส้นรอบคันสไตล์รถสปอร์ต ต่อมาได้มีการพัฒนาสมรรถนะในเรื่องของขนาดแรงม้า จนมาถึงปัจจุบันฟอร์ดมัสแตงได้ถูกปรับปรุงให้กลายเป็นรถสปอร์ตที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยม ด้วยเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร V8 กำลังแรง 460 แรงม้า แรงบิด 420 ปอนด์-ฟุต พร้อมเกียร์ manual หรือเกียร์อัตโนมัติระบบใหม่แบบ 10 สปีด

ฟอร์ดมัสแตงมีข้อดีหลายข้อที่ทำให้เหนือกว่า Ford GT ได้แก่ ระบบควบคุม Smokey-burnout แบบอัตโนมัติ, ระบบการล็อคอิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกปลอดภัย อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบในเรื่องของความสะดวกสบาย สามารถขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลมากขึ้นแบบที่สามารถใช้เป็นรถแบบขับประจำวันได้เลยทีเดียว

Ford เป็นอีกหนึ่งค่ายรถที่น่าจับตามองทั้งในสนามแข่งและในตลาดรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ไม่แพ้ค่ายรถจากในยุโรป สำหรับในอนาคตทั้ง Ford GT และ Ford Mustang GT จะพัฒนาก้าวหน้าและตอบโจทย์ขวัญใจรถสปอร์ตได้อีกมากน้อยแค่ไหน แฟน ๆ ค่ายฟอร์ดก็คงต้องติดตามกันต่อไป

Top 10 รถสปอร์ตที่ดีที่สุดของปี 2018 (ตอนที่ 2)

มาต่อกับรถยนต์สปอร์ตที่ได้ชื่อว่าเป็นรถที่ดีที่สุดในปี 2018 อีก 5 รุ่นกันจากตอนที่ 1 ที่ได้พูดถึงรถยนต์จากค่ายปอร์เช่, จากัวร์, โลตัส, BMW และนิสสันกันมาแล้ว

  • Lexus LC ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ V8 ทำให้ Lexus LC เป็นรถยนต์สปอร์ตที่มีเสน่ห์ยอดเยี่ยมพร้อมกับความสมดุลและความกระฉับกระเฉงในการขับขี่ ทำให้รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติของ Jaguar F-Type หรือ Porches 911 ได้ดี แต่ Lexus LC ก็ยังถือเป็นรถสปอร์ตรุ่นที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อขับขี่อยู่บนท้องถนน
  • Chevrolet Corvette Stingray รถรุ่นนี้ถือเป็น Super Car รุ่นเก่าแก่ที่มีเครื่องยนต์ที่มีแรงดึงตามธรรมชาติด้วยเกียร์ธรรมดาและการขับเคลื่อนล้อหลัง เสียงของ Chevrolet Corvette Stingray ถือเป็นซาวน์แบบดั้งเดิมและดังกระหึ่มพร้อมการตกแต่งภายในที่ดีเยี่ยม ถือเป็นรถรุ่นที่มีศักยภาพและสามารถสร้างความสนุกสนานสำหรับการใช้งานของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี
  • Maserati GranTurismo มาเซราติรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีความซับซ้อนมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีข้อบกพร่องในเรื่องความสมบูรณ์แบบของการเป็นรถยนต์สปอร์ตที่ยังสามารถพัฒนาให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นกว่านี้ได้อีก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Maserati GranTurismo รุ่นนี้ก็ยังคงได้รับการจัดอันดับให้เป็นรถสปอร์ต 1 ใน 10 รุ่นที่ดีที่สุดของปี 2018 อยู่ดี เพราะคุณไม่มีทางผิดหวังอย่างเด็ดขาดเมื่อเลือกซื้อเป็นเจ้าของรถสปอร์ต Maserati GranTurismo
  • Alfa Romeo 4C รถยนต์อัจฉริยะที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้บางคนจะบอกว่าปอร์เช่เหมือนการพัฒนาที่สมบูรณ์แบบของ Alfa Romeo ก็ตาม เนื่องจาก Alfa Romeo 4C ยังคงมีความบกพร่องในส่วนของความเป็นรถสปอร์ตอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นรถที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ให้ผู้ใช้สามารถขับขี่ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีกลุ่มผู้ใช้แบบเฉพาะเจาะจงที่เรียกว่าแฟนพันธุ์แท้ที่เหนียวแน่นที่ไม่ได้สนใจเรื่องสมรรถนะหากจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับปอร์เช่แต่อย่างใดเพราะ Alfa Romeo มีความโดดเด่นที่แตกต่างอย่างแท้จริงที่ทำให้ผู้ขับขี่ประทับใจรถสปอร์ตยี่ห้อนี้มาอย่างยาวนาน
  • Morgan Plus 8 ถึงแม้หลายคนจะยังไม่ชอบรูปทรงของรถสปอร์ตคันนี้ก็ตาม อีกทั้งยังมองว่าสมรรถนะยังไม่สมกับราคา 80,000 ปอนด์ แต่ Morgan Plus 8 ก็ยังติดอยู่ในอันดับ 10 ของรถสปอร์ตที่ดีที่สุดในปีนี้อยู่ดี

ถึงแม้รถสปอร์ตทั้ง 10 รุ่นที่กล่าวมาทั้งในตอนที่ 1 และตอนที่ 2 จะได้ชื่อว่าเป็นรถสปอร์ตที่ดีที่สุดแห่งปี 2018 แต่ข้อสำคัญในการเลือกซื้อรถก็คือ ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและต้องเป็นรถที่คุณสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและง่ายดายที่สุดต่างหาก สำหรับปี 2019 จะมีรถยนต์รุ่นไหนจากค่ายใดที่มาแรงและน่าสนใจกันบ้าง ก็คงต้องติดตามกันต่อไป รวมถึงสนนราคาว่าจะแรงแค่ไหนก็คงต้องรอดูเช่นกัน

Top 10 รถสปอร์ตที่ดีที่สุดของปี 2018 (ตอนที่ 1)

ก่อนจะลากันไปในปี 2018 วันนี้เราได้นำเอาเรื่องราว 10 อันดับของรถสปอร์ตที่ได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ดีที่สุดของปีนี้มาฝากกัน จะมีค่ายรถจากแบรนด์ไหนกันบ้าง ไปดูกันเลย

  1. Porsche 911 Carrera รถยนต์ปอร์เช่สปอร์ต 911 ที่ได้รับการปรับปรุงสมรรถนะให้เร็วและแรงกว่าเก่า พร้อมการติดตั้งระบบเทอร์โบ ระบบหล่อเย็นและระบบพวงมาลัยไฟฟ้าอัจฉริยะ ทำให้ปอร์เช่ 911 ถูกจัดเป็นรถยนต์สปอร์ตที่ดีที่สุดแห่งปี 2018
  2. Jaguar F-Type รถยนต์จากัวร์รุ่น F-Type เป็นรุ่นที่พิสูจน์ได้ว่าค่ายรถจากัวร์เป็นอีกหนึ่งในค่ายรถที่มีความสามารถในการผลิตรถยนต์สปอร์ตได้อย่างแท้จริงเหมือนกับค่ายรถเยอรมันเจ้าอื่น ๆ ซึ่งทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีเสน่ห์และคุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของอย่างไม่น่าเชื่อ และถึงแม้ว่า Jaguar F-Type จะไม่ได้เป็นรถยนต์สปอร์ตที่มีความโดดเด่นมากมายแถมยังมีข้อบกพร่องหลายอย่าง แต่รถยนต์รุ่นนี้ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างแบรนด์ของจากัวร์อีกครั้งในศตวรรษที่ 21 อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นรถที่สร้างแรงบันดาลใจในการขับขี่และยังรักษาตำนานของผู้ผลิตรถสปอร์ตไว้ได้เป็นอย่างดี ถึงจะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็ยังคงยอดเยี่ยม
  3. Lotus Evora เป็นรถยนต์สปอร์ตที่ไม่จำเป็นต้องมีคำถามหรือข้อสงสัยในเรื่องของสมรรถนะ และถึงแม้ว่าลูกค้าจะมีความต้องการรถที่มีสมรรถนะสูงกว่า แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีรถรุ่นที่มีสมรรถนะด้านไดนามิกที่สูงกว่ารถรุ่นนี้ออกมาวางจำหน่าย Lotus รุ่น Evora ถือเป็นการวางเกณฑ์มาตรฐานของรถยนต์สปอร์ตในการที่จะทำให้รถสามารถทรงตัวและผู้ขับขี่สามารถบังคับพวงมาลัยได้ในขณะที่รถกำลังขับเคลื่อนด้วยความแรง 410 แรงม้า
  4. BMW I8 หนึ่งในรถยนต์สปอร์ตรุ่นที่น่าสนใจมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ไม่เฉพาะสมรรถนะและความแรงในการขับขี่เท่านั้นแต่ทั้งรูปลักษณ์ภายในและภายนอกยังได้ถูกออกแบบมาด้วยความประณีตสวยงามแต่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย ทำให้ BMW I8 สามารถแบ่งยอดขายจาก Porsche 911 ไปได้โดยไม่ต้องสงสัย ทั้ง ๆ ที่ i8 เสียเปรียบเล็กน้อยในเรื่องความสมดุลของรถสปอร์ต
  5. Nissan GT-R เป็นรถรุ่นที่ให้ความเร็วและแรงได้อย่างคุ้มค่าสมกับราคา 100K ปอนด์ และไม่ใช่เฉพาะเรื่องความเร็วที่เยี่ยมยอดแต่เพียงอย่างเดียว แต่ Nissan GT-R ยังเป็นรถสปอร์ตจากญี่ปุ่นที่มีพร้อมความหรูหราและอุปกรณ์ภายในที่มีประสิทธิภาพที่แตกต่าง อีกทั้งระบบดิจิตอลของรถคันนี้ยังถูกออกแบบมาให้มีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

สำหรับรถอีก 5 รุ่นที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นรถสปอร์ตที่ดีที่สุดของปี 2018 จะเป็นรถยนต์จากค่ายใด ติดตามต่อได้ใน Top 10 รถสปอร์ตที่ดีที่สุดของปี 2018 (ตอนที่ 2)