5 นักแข่งรถในดวงใจที่หลาย ๆ คนยังจดจำ..ทั้งไทยและต่างประเทศ

ต้องบอกเลยว่ากีฬาแข่งรถเป็นกีฬาที่หลาย ๆ คนหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเสน่ห์ของความเร็วและความแรงที่ทำให้คนดูลุ้นชนิดที่ว่านั่งไม่ติดเก้าอี้นั่นเอง ที่ทำให้กีฬารถแข่งครองใจคนทั้งโลกมาจนถึงปัจจุบัน แต่หากกล่าวถึงนักแข่งรถในดวงใจใครหลาย ๆ คนแล้วล่ะก็ ทุกคนก็คงจินตนาการกันไปหลาย ๆ ชื่อ วันนี้เราเลยขอรวมเอานักแข่งรถที่ยังอยู่ในดวงใจใครหลาย ๆ คน พร้อมแล้วมาดูกัน

1.มิคาเอล ชูมัคเกอร์

นักแข่งรถคนแรกที่จะไม่กล่าวถึงเลยคงเป็นไปไม่ได้อย่างชูมี เขามีผลงานที่โดดเด่นอย่างยิ่ง เพราะว่าเคยคว้าแชมป์ติดต่อกันถึง 5 สมัย จากผลงานนี้เองที่ทำให้เขาได้เป็นตำนานของนักแข่งรถบรรลือโลกเลยก็ว่าได้ แต่ทว่าเขากลับประสบอุบัติเหตุในสนามแข่งจนต้องพักฟื้นร่างกาย เมื่อกลับมาแข่งรถอีกครั้ง ฝีมือก็ไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว ทำให้เขาตัดสินใจวางมือจากการแข่งรถ สุดท้ายเขาประสบอุบัติเหตุในขณะเล่นสกีจนเป็นเจ้าชายนิทรา แม้จะฟื้นขึ้นมาได้แต่ก็ไม่สามารถกลับมาแข่งรถได้อีกครั้ง

2.รัฐภาคย์ วิไลโรจน์

หากเอ่ยถึงนักบิดชาวไทยที่คนไทยทุกคนยังจำเขาได้ก็คือ หนุ่มฟีมนั่นเอง โดยหนุ่มคนนี้เป็นคนบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เขาหลงใหลในกีฬามอเตอร์ไซค์แข่งมานานแล้ว ด้วยเหตุผลมาจากการที่ว่าพ่อของเขานั้นก็เป็นอดีตนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ทางเรียบนั่นเอง  ซึ่งฟีมก็ประสบความสำเร็จในอาชีพนักแข่งรถ โดยได้แชมป์เวิลด์ซูเปอร์ไบค์ เมื่อปี พ.ศ. 2015 จัดเป็นอีกหนึ่งหนุ่มนักซิ่งที่ควรค่าแก่การจดจำ

3.อเล็กซ์ ฮวง

อีกหนึ่งหนุ่มที่แม้จะเพิ่งโด่งดังเมื่อไม่นานมานี้แต่ฝีไม้ลายมือในการซิ่งก็ไม่เป็นสองรองใคร อเล็กซ์ ฮวง ความน่าสนใจของหนุ่มคนนี้คือเติบโตในครอบครัวที่พ่อเป็นศัลยแพทย์ ไม่เหมือนนักซิ่งคนอื่นที่พ่อมักเป็นนักแข่งรถอยู่แล้ว แต่อเล็กซ์กลับหลงใหลในกีฬารถแข่งเป็นชีวิตจิตใจ โชคดีที่ทั้งพ่อและแม่ของเขาไม่ขัดขวางเส้นทางฝันของลูกรัก ตรงกันข้ามกลับให้การสนับสนุนเต็มที่ และเป้าหมายตอนนี้ของเขาก็คือการไปเป็นนักแข่งรถระดับโลกให้จงได้

และนี่ก็คือนักแข่งรถที่หลาย ๆ คนคงคุ้นเคย หรืออาจจะได้ยินชื่อกันมาบ้าง แน่นอนว่ากว่าจะมาเป็นนักแข่งรถชื่อดังที่ใคร ๆ ก็รู้จักได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเอาเสียเลย ตรงกันข้าม ต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการที่รอคอยอยู่ การเป็นนักแข่งรถต้องฝึกหนัก ในระหว่างช่วงวัยรุ่นทั่วไปที่พวกเขาควรได้เล่นสนุก เขาก็เอาเวลามาทุ่มเทในการซ้อม ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่า สุดท้ายแล้ว ความพยายาม วิริยะของพวกเขา ได้นำชัยชนะมาให้ ส่งผลให้เขาได้กลายเป็นที่จดจำ ชื่อของพวกเขาเป็นชื่อของนักแข่งรถที่เมื่อเอ่ยปากไป ใคร ๆ ก็ร้องอ๋อ

ผู้หญิงกับการเป็นนักแข่งรถในประเทศไทย โอกาสที่คุณเอื้อมคว้าได้

หากพูดถึงอาชีพนักแข่งรถกับผู้หญิง เชื่อได้เลยว่าหลายคนคงจะขมวดคิ้วใส่ เพราะอาชีพนักแข่งรถ ดูเหมือนเป็นอาชีพสำหรับผู้ชายเสียมากกว่า แต่โลกยุคปัจจุบันก้าวไกลขึ้นมาก ผู้หญิงไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แต่ในเหย้าในเรือนอีกต่อไป แต่ว่าผู้หญิงก็มีศักยภาพมากพอไม่แพ้ผู้ชาย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจกีฬาแข่งรถ บางทีโอกาสอาจจะรอให้คุณเอื้อมคว้าอยู่ก็ได้

ดาราหญิงกับการแข่งรถ

ไม่น่าเชื่อว่ากีฬาที่ดูแมน ๆ แบบกีฬาแข่งรถมอเตอร์สปอร์ตนี้ก็มีดาราสาวของไทยหลายคน ร่วมวงการแข่งขันด้วย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแม่แฟชั่น คุณแม่ของสายฟ้า – พายุ อย่างแม่ชม ชมพู่ อารยา ที่ฝีมือของการแข่งรถเธอนั้นไม่เบาเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีใหม่ สุคนธวา แอริน ยุคตะทัต อิม เฟี้ยวฟ้าว นาตาลี เดวิส กระแต ศุภักสร นักแสดงหญิงที่เราเห็นโลดแล่นในวงการแข่งรถก็เพราะพวกเธอหลงใหลในเสน่ห์ของความเร็วไร้ขีดจำกัด และเธอเลือกที่จะเล่นกีฬาท้าทายความเร็วอย่างกีฬารถแข่ง แน่นอนว่าจากลุคสาวนักแข่งรถแบบนี้เอง ที่ทำให้เธอมีมาดที่เท่กว่าเดิม

ผู้หญิงธรรมดา…กับการก้าวเข้าสู่วงการแข่งรถ

แม้จะมีหลายเสียงบอกกันว่า การแข่งรถของไทยนั้น หากจะเข้าวงการนี้ได้ จะต้องอาศัยเงินเป็นหลัก เพราะแพงตั้งแต่ค่าอุปกรณ์นิรภัย ค่ารถ ค่าจิปาถะอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งหากใครอยากเป็นนักแข่งรถหญิง เจอรายจ่ายเข้าไปอาจมีถอยก่อนแน่นอน แต่เชื่อเถอะว่าแท้ที่จริงแล้วการจะก้าวเข้าสู่เส้นทางนักแข่งรถไม่ได้ยากเย็นขนาดนั้น ขอแค่คุณมีใจที่อยากจะท้าทายความเร็ว หมั่นเก็บเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์ และสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการขับแข่งรถ อย่าลืมมองหาเพื่อนฝูงหรือผู้มีความรู้ที่อยู่ในวงการแข่งรถ รับรองได้เลยว่าไม่ช้า คุณก็จะสามารถเป็นนักแข่งอาชีพได้แน่นอน

นักแข่งรถหญิงไทย มีสิทธิ์ไปไกลได้หรือไม่

ต้องบอกเลยว่าแม้นักแข่งรถหญิงไทยจะไม่ได้มีมากมายเท่ากับนักแข่งรถชาย แต่โอกาสเติบโตก้าวหน้าก็มีไม่แพ้กัน หากว่าคุณได้เริ่มต้นในอาชีพนักแข่งรถหญิงแล้ว ให้ใช้ความพยายามและมุ่งมั่น เข้าสู่สนามแข่งขันแบบไม่ย่อท้อ คุณก็จะเป็นที่รู้จักได้อย่างแน่นอนเลยทีเดียว

เชื่อได้เลยว่าสาว ๆ หลายคนที่อ่านมาจนถึงตอนนี้แล้ว คงอยากเป็นนักแข่งรถกันบ้าง เสน่ห์ของกีฬารถแข่งไม่แพ้ใคร ไม่ว่าใครได้ลองก็ต่างหลงใหลในกีฬาท้าความเร็วด้วยกันทั้งสิ้น แต่จะมีกี่คนที่ก้าวไปสู่จุดหมายที่ตนเองหวังเอาไว้ หากคุณมีเป้าหมายเป็นนักแข่งรถ ก็ลองศึกษานับตั้งแต่วันนี้ หากยังไม่มีทุนทรัพย์มากเพียงพอ ก็อาจจะเลือกอ่านหนังสือ อ่านข่าวหรือดูเว็บไซต์รถแข่งไปก่อนก็ได้ สะสมความรู้ไว้แต่เนิ่น ๆ จะทำให้คุณได้เปรียบคนอื่นแน่นอน

มิคาเอล ชูมัคเกอร์ ตำนานของนักแข่งรถ

หากเอ่ยถึงนักแข่งรถที่เป็นตำนานของโลก ที่พูดชื่อขึ้นมาใครต่อใครก็ต้องรู้จัก หนึ่งในชื่อนั้นต้องมีชื่อของชูมี หรือมิคาเอล ชูมัคเกอร์อย่างแน่นอน เส้นทางการเป็นนักแข่งรถของเขาแม้ไม่ได้เริ่มต้นด้วยกลีบกุหลาบแต่ทว่าใช้ความพยายามอย่างน่าดู แม้ปัจจุบันเขาจะยังป่วยอยู่ คนทั่วโลกก็ยังคงเป็นห่วงเขาและจดจำเขาไว้ในตำนานนักแข่งรถ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับมิคาเอล ชูมัคเกอร์ให้มากขึ้น

มิคาเอล ชูมัคเกอร์กับเส้นทางนักแข่งรถที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

นักแข่งรถในตำนานคนนี้ เริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักแข่งรถในวัย 12 ปี เริ่มจากการเข้าร่วมการแข่งรถคาร์ต แต่ในวัย 12 ปีนั้นเขาไม่มีใบขับขี่ แต่ด้วยความพยายาม ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค ก็เลยทำให้เขาไปต่อใบขับขี่ที่ประเทศลักแซมเบิร์ก และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ ปีถัดมาเขาสามารถเป็นแชมป์รถคาร์ตได้ ด้วยความสนใจในเรื่องรถเป็นพิเศษ เขาจึงได้เดินไปตามเส้นทางการแข่งรถ และได้เป็นแชมป์ของรถ F3 เมื่อปีคริสตศักราช 1990 จนกระทั่งฝึกฝนฝีมือจนกลายเป็นนักแข่งรถชื่อดังก้องโลกและเป็นตำนานอย่างทุกวันนี้

อุบัติเหตุที่พลิกผันชีวิต

ในชีวิตของมิคาเอล ชูมัคเกอร์นั้นเจออุบัติเหตุสองครั้งใหญ่ ๆ และสองครั้งนั้นก็ทำให้ชีวิตของเขาพลิกผันไปมากเลยทีเดียว อุบัติเหตุแรกเกิดในระหว่างการแข่งขันที่ประเทศอังกฤษ โดยรถของเขาได้พลิกคว่ำ ทำให้เขาบาดเจ็บจากกระดูกหน้าแข้งและบริเวณน่องหัก ต้องพักฟื้นร่างกายอย่างยาวนาน จนในที่สุดเขาตัดสินใจเลิกแข่งขันไปในปี 2006 ทว่าคงเป็นมนต์เสน่ห์ของรถแข่งที่ทำให้เขาตัดไม่ขาด ในปี 2010 เขาตัดสินใจกลับมาเข้าสังกัดนักแข่งรถของเมอร์เซเดสอีกครั้ง แต่ทว่าการกลับมาครั้งนี้เขาสร้างผลงานได้ไม่ดี สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจออกจากวงการแบบถาวร

อุบัติเหตุครั้งที่สองที่พลิกชีวิตเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือก็คืออุบัติเหตุจากการเล่นสกี จนศีรษะของเขาบาดเจ็บเพราะกระแทกโขดหิน จากอุบัติเหตุครั้งนี้ได้ทำให้เขากลายเป็นเจ้าชายนิทรา ที่น่าแปลกใจก็คือครอบครัวของเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะปิดข่าวว่าอาการของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ทั้ง ๆ ที่ VWIN และคนทั้งโลกยังรักและเอาใจช่วยเขา ปรารถนาจะเห็นเขากลับมาใช้ชีวิตดังเดิมอีกครั้ง

สำหรับแฟนรถแข่งคนใดที่ยังคิดถึงเขาอยู่ และอยากจะรู้เรื่องราวของชีวิตเขาให้มากกว่านี้ ปลายปี 2019 มีภาพยนตร์สารคดีของเขาที่ชื่อว่า Schumacher แน่นอนว่าหากใครยังคิดถึง ก็จะได้ชมชีวิตเขาได้อย่างเต็มอิ่มและจุใจเลยทีเดียว แม้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเห็นเขากลับมาโลดแล่นบนสนามรถแข่งอีกครั้งหรือไม่ แต่สิ่งที่คนทั้งโลกทำได้ดีที่สุดก็คือ เอาใจช่วยให้ราชานักแข่งรถคนนี้กลับมามีสุขภาพที่ดีดังเดิม